ประภาส ยัน ยักษ์ ไม่ขาดทุน หลายประเทศซื้อแล้วรอฉาย

            ประภาส ยัน ภาพยนตร์แอนิเมชั่น ยักษ์ ฝีมือคนไทยไม่ขาดทุน บอก หลายประเทศซื้อไปแล้ว รอคิวฉาย 

            ถือเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นสัญชาติไทยอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนรู้จักกันดีกับ "ยักษ์" หรือ "The Giant King" จากฝีมือของ "ประภาส ชลศรานนท์" แห่ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ใช้เวลาสร้างถึง 6 ปี ลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท แต่ทว่าดูเหมือนภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้โด่งดังเปรี้ยงปร้างอย่างที่ผู้สร้างตั้งใจ จนทำให้หลายคนวิจารณ์กันว่า สงสัย "ยักษ์" จะขาดทุนเสียแล้ว งานนี้ "ประภาส ชลศรานนท์" จึงได้โพสต์เฟซบุ๊กในรูปแบบของจดหมาย ชื่อ "จดหมายจากคนเลี้ยงยักษ์" ยืนยันว่า "ยักษ์" ไม่ได้ขาดทุนแน่นอน


จดหมายจากคนเลี้ยงยักษ์
....
            มีหลายคนถามไถ่ผมด้วยความเป็นห่วงว่า ยักษ์ขาดทุนไหม เพราะถึงแม้จะเป็นแอนิเมชั่นที่ทำเงินสูงสุดในเมืองไทยของปี เอาชนะแอนิเมชั่นสัญชาติฝรั่งหมดทุกเรื่อง ยอดรายได้อยู่ลำดับที่ห้าของหนังไทยทั้งหมดในปีที่ผ่านมา และตัวเลขไม่สูงมากนัก
...
            อย่างแรกก็ต้องบอกว่าขอบคุณที่เป็นห่วงเป็นใยกัน บางทีผมก็รู้สึกเหมือนเราไม่ได้เป็นคนทำและคนดู แต่เราเหมือนเป็นคนในทีมเดียวกัน ก็คงต้องบอกว่ายักษ์ไม่ขาดทุนครับ ถึงจะลงทุนสูงมากแต่ก็มีพรรคพวกสปอนเซอร์ช่วยกันหลายราย 

            ที่สำคัญสุดยักษ์ขายได้ในตลาดโลกแล้ว และกำลังเดินทางขายต่อไปเรื่อย ๆ เกาหลีคงจะฉายปีนี้ ใกล้ ๆ กับมาเลเซีย รัสเซียซื้อไปแล้ว ด้วยเป็นประเทศใหญ่คงต้องใช้เวลาทำมาร์เก็ตติ้งนานหน่อย ตุรกีซื้อแล้ว ไต้หวันก็ซื้อแล้ว อเมริกาก็ทำสัญญาแล้ว ถึงบริษัทที่ซื้อจะไม่ใหญ่ขนาดพาราเม้าท์ แต่ก็ใหญ่พอที่จะทำตลาดใหม่หมด ได้ยินว่าเขาจะขอไปหาคนพากย์ใหม่ร้องเพลงใหม่ น่าสนใจทีเดียว

            ที่น่าสนุกและตื่นเต้นที่สุดก็คือ จีนทำสัญญาเรียบร้อย เหลือขั้นตอนสุดท้ายคือรัฐบาลจีนต้องเซ็นเซอร์ก่อน และเซ็นเซอร์นาน อันนี้ต้องเข้าใจวัฒนธรรมของเขา แต่ถ้าฉายที่จีนต้องร้องโอ้โฮแน่ เพราะฉายครั้งหนึ่งสองสามพันโรง
...
            มิตรภาพของน้าเขียวกับพี่เผือกกำลังเดินทางไปทั่วโลกอย่างแท้จริง
...
            มีพ่อแม่หลายคนซื้อวิดีโอไปดู เพราะไม่สามารถพาลูกไปดูในโรงได้ รวมไปถึงพ่อแม่ของเด็กที่ดูในโรงแล้วอยากดูอีก เขียนข้อความมาขอบคุณและชมเชยทีมงานกันไม่ขาดปากที่ทำให้ลูก ๆ ของพวกเรามีตัวการ์ตูนเป็นขวัญใจที่คิดและสร้างโดยคนไทย และนั่นผมถือว่าเป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราได้รับหลังจากงานนี้เสร็จ
...
            ผมมักตอบพ่อแม่ที่น่ารักเหล่านั้นไปเล่น ๆ เสมอ ๆ ว่า อย่าลืมบอกลูก ๆ ของพวกเราว่าหนังที่ลูกดูอยู่นััน ทำแถว ๆ ปทุมธานีโดยพี่ ๆ อา ๆ ลุง ๆ คนไทยนี่แหละ
...
            วันหนึ่งข้างหน้า เราจะได้มีคนรุ่นใหม่รุ่นต่อไปที่ลุกขึ้นมาช่วยกันสร้างงานไปสู้กับชาวโลก ตั้งเข็มไว้เลยว่าผู้คนทั้งโลกต้องหันมาบริโภคทั้งข้าวปลาอาหาร เทคโนโลยีและศิลปะจากแผ่นดินอุดมสุวรรณภูมินี้บ้าง"