วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ภาคต่อ The Lego Movie เตรียมฉายปี 2017

หลังจากเปิดตัวไปไม่นานสำหรับ The Lego Movie ก็กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลาย จนครองแชมป์อันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศถึง 3 สัปดาห์ซ้อน ทำให้วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ลุยสร้างภาคต่อ ซึ่งคาดว่าจะเข้าฉายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2017

          เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2014 เว็บไซต์ Hollywoodreporter รายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทางวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้ประกาศว่าหนังภาคต่อ The Lego Movie จะเข้าฉายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2017 ซึ่งตรงกับช่วงวันแห่งความรำลึกถึง (Memorial Day) วันหยุดของทางสหรัฐฯพอดี โดยตอนนี้ยังไม่มีชื่อเรื่องเผยออกมาแต่อย่างใด

          ตอนนี้ The Lego Movie ยังคงกวาดรายได้พุ่งกระฉูดอย่างต่อเนื่องเป็นประวัติการณ์ โดยกวาดรายได้รวมในประเทศกว่า 183 ล้านเหรียญ และประเทศอื่น ๆ กว่า 23.1 ล้านเหรียญ ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นับว่า The Lego Movie เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากสำหรับวอร์เนอร์ ที่ไม่เคยเน้นทำธุรกิจกับหนังแอนิเมชั่นมาก่อน ด้วยต้นทุนเพียง 60 ล้านเหรียญ


          The Lego Movie ได้นักแสดงเข้ามาร่วมพากย์เสียงมากมาย เช่น คริส แพรตต์ (Chris Pratt), วิล เฟอร์เรล (Will Ferrell), เอลิซาเบ็ธ แบงคส์ (Elizabeth Banks), วิล อาร์เน็ตต์ (Will Arnett), เลียม นีสัน (Liam Neeson) และ มอร์แกน ฟรีแมน (Morgan Freeman)

          ด้วยปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้น ทำให้วอเนอร์เดินหน้าสร้างภาคต่อ และยังเตรียมสร้างหนังภาคแยกอย่าง Lego Ninjago หนังที่ดัดแปลงจากเลโก้ แต่ให้ออกมาในธีมนินจา อีกด้วย

บทหนัง Ghostbusters 3 ถูกปรับใหม่หลังฮาโรลด์ เรมิสเสียชีวิต

นับว่าเป็นข่าวเศร้าของวงการฮอลลีวูดเลยทีเดียว สำหรับการจากไปของนักแสดง ผู้เขียนบท และผู้กำกับมากฝีมืออย่าง ฮาโรลด์ เรมิส ที่เสียชีวิตไปด้วยโรคหลอดเลือดอักเสบ โดยเขายังมีผลงานที่ทำค้างไว้คือ การเขียนบท Ghostbuster 3 ซึ่งต้องมีการปรับปรุงใหม่บางส่วน

          เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2014 เว็บไซต์ Hollywoodreporter มีรายงานว่า ฮาโรลด์ เรมิส (Harold Ramis) นักแสดงที่เป็นที่รู้จักที่สุดจาก Ghostbuster บริษัทกำจัดผี เสียชีวิตในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ด้วยอาการหลอดเลือดอักเสบอย่างรุนแรงจากโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง โดยเขารับหน้าที่เขียนบท Ghostbuster 3 ที่กำลังจะสร้างเป็นหนังให้ได้ชมกันเร็ว ๆ นี้ด้วย

          ทั้งนี้ อีวาน ไรท์แมน (Ivan Reitman) ผู้กำกับในหนังภาคต่อเรื่องนี้ ได้นัดประชุมกับทางโซนี่ พิคเจอร์ส เพื่อเจรจาร่วมกันถึงการทำโปรเจคท์นี้ว่าจะออกไปในทิศทางไหนต่อไป ซึ่งตอนนี้บทหนังที่เขียนโดย 2 ผู้เขียนบทซีรีส์ The Office อย่าง ลี ไอเซนเบิร์ก (Lee Eisenberg) และ จีน สตูปนิตสกี้ (Gene Stupnitsky) ต้องนำกลับมาปรับปรุงใหม่อย่างเร่งด่วน

          อย่างไรก็ตามฮาโรลด์ เรมิส เคยเป็นผู้ร่วมเขียนบทใน Ghostbuster ภาค 1 และ 2 ซึ่งตัวเขาก็มีส่วนร่วมใน Ghostbuster ภาค 3 ไม่มากนัก และเมื่อเขาเสียชีวิตลงแล้ว บทหนังที่มีตอนนี้ก็ยังไม่พอกับการนำไปถ่ายทำ ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในปี 2014 นี้ ตอนนี้ทางสตูดิโอมีความคิดที่จะปรับบทใหม่ โดยตัดตัวละคร ดร.อีกอน สแปงเกลอร์ (Dr.Egon Spengler) ที่ฮาโรลด์ เรมิส เคยรับบทบาทนี้ออกไป


โซนี่เตรียมสร้าง The Equalizer ภาค 2

หนังบู๊สืบสวนที่หลายคนต่างเฝ้ารอชมอย่าง The Equalizer ที่เคยเป็นซีรีส์ในยุค 80 มาก่อนนั้น ยังไม่ทันได้เข้าฉาย แต่ทางโซนี่ก็ใจเด็ดจะสร้างภาคต่อของหนังเรื่องนี้แล้ว

          เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2014 เว็บไซต์ Coming soon มีรายงานว่า ตอนนี้ทางโซนี่ พิคเจอร์ส เตรียมสร้างหนังภาคต่อของ The Equalizer แล้ว แม้ว่าภาคแรกจะยังไม่เข้าฉายก็ตาม ซึ่งริชาร์ด เว็ง (Richard Wenk) ผู้เขียนบทหนังภาคแรก ได้เซ็นสัญญาร่วมเขียนบทภาคต่อเรียบร้อยแล้ว และ เดนเซล วอชิงตัน (Denzel Washington) ก็ยังคงเป็นตัวหลักในเรื่องอยู่

          ในซีรีส์ฉบับดั้งเดิมสร้างขึ้นโดย ไมเคิล สโลน (Michael Sloan) และ ริชาร์ด ... (Richard Lindheim นำแสดงโดย เอ็ดเวิร์ด วูดเวิร์ด (Edward Woodward) รับบทเป็น โรเบิร์ต แม็คคอล (Robert McCall) ชายคนหนึ่งที่พยายามล้างความผิดของตัวเองในอดีต โดยการเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน และได้ช่วยเหลือผู้เป็นโสเภณีวัยรุ่น (โคลอี เกรซ มอเรตซ์) ที่กำลังมีปัญหาใหญ่ จนเป็นเหตุให้เขาเข้าไปพัวพันกับแก๊งมาเฟียสุดโหด

          สำหรับหนังภาคต่อนี้คงต้องรอกันนานพอสมควร เพราะหนังภาคแรกมีกำหนดฉายวันที่ 26 กันยายน 2014 นี้ ยังไงก็เตรียมตัวไปดูหนังภาคแรกกันก่อนแล้วกันนะคะ ส่วนข่าวหนังภาคต่อเราจะมาอัพเดทให้ได้รู้กันเรื่อย ๆ แน่นอน

ลืออีก ไมเคิล บี จอร์แดน เตรียมรับบทนำใน Batman vs. Superman

 เริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว สำหรับโปรเจคท์หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ของ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ที่มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า Batman vs. Superman โดยเว็บไซต์ latino-review รายงานว่า ทีมผู้สร้างกำลังมองหานักแสดงผิวสีที่มีรูปร่างฟิตเปรี๊ยะและยังอยู่ในวัย 20 ต้น ๆ เพื่อมารับบทตัวละครใหม่ในโปรเจคท์นี้

          ซึ่งดูเหมือนว่าบทดังกล่าวจะไม่ใช่ตัวละครเล็ก ๆ เสียด้วย เพราะมีข่าวออกมาว่าผู้กำกับของเรื่องอย่าง แซค สไนเดอร์ (Zack Snyder) ได้ลงทุนเข้าไปเจรจากับนักแสดงที่เขาต้องการด้วยตัวเอง และหนึ่งในนั้นคือ ไมเคิล บี จอร์แดน (Michael B. Jordan) ซึ่งกำลังจะมีผลงานในหนังซูเปอร์ฮีโร่อย่าง The Fantastic Four ในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน

          โดยการเข้าไปเจรจาด้วยตัวเองของผู้กำกับคนนี้มักไม่ธรรมดา เพราะผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับทีมงานของ แซค สไนเดอร์ ได้กล่าวว่า "สำหรับการคัดเลือกนักแสดงของเขา มักไม่ใช้วิธีการออดิชั่นคนทีละมาก ๆ แต่เขาจะใช้วิธีค่อย ๆ ลิสต์รายชื่อนักแสดงที่ต้องการเสียมากกว่า" ดังนั้น ข่าวลือเรื่องการเข้ามารับบทดังกล่าวของ ไมเคิล บี จอร์แดน จึงมีความเป็นไปได้มากขึ้น

          ในโปรเจคท์นี้นอกจากจะเป็นผลงานการกำกับของ แซค สไนเดอร์ แล้ว ยังมีนักแสดงมากฝีมืออีกหลายคนที่มาเสริมทัพความมันส์ ได้แก่ เฮนรี่ คาวิลล์ (Henry Cavill), เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck), เอมี่ อดัมส์ (Amy Adams), ไดแอน เลน (Diane Lane), ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น(Laurence Fishburne), แกล กาโดต์ (Gal Gadot), เจสซี่ ไอเซน (Jesse Eisenberg) และเจเรมี่ ไอรอนส์ (Jeremy Irons) โดยมีกำหนดเข้าฉายวันที่ 6 พฤษภาคม 2016

ยังไหว แฮริสัน ฟอร์ด เตรียมลุย Indiana Jones ต่ออีก 2 ภาค

ข่าวลือที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงนี้ เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องที่ แฮริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) อาจเข้ามารับบทนักโบราณคดี ในหนังผจญภัยชื่อก้องโลกอย่าง Indiana Jones โดยเว็บไซต์ Movie Web รายงานว่า นักแสดงวัย 71 ปีผู้นี้ อาจเข้ามารับบทนำในอีก 2 ภาค ที่กำลังจะมีการสร้าง

          โดยก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือออกมาว่า แฮริสัน ฟอร์ด จะกลับเข้ามารับบท ฮัน โซโล ในหนังเรื่อง Star Wars Episode 7 ซึ่งเป็นบทเดิมที่เขาเคยเล่นไว้ใน Star Wars : Episode VI - Return of the Jedi ตั้งแต่ปี 1983 ซึ่งในสัญญาการแสดงเรื่องดังกล่าวระบุว่า เขาจะต้องรับแสดงในเรื่อง Indiana Jones ภาค 5 ควบคู่ไปด้วย ซึ่งนี่หมายความว่า การกลับมาของฟอร์ดในครั้งนี้เขาจะปรากฏตัวในหนังถึง 2 เรื่องพร้อมกัน

          สำหรับตัว แฮริสัน ฟอร์ด เองกล่าวว่า เขาสนใจโปรเจคท์ Indiana Jones 5 มากกว่า Star Wars Episode 7 แต่จากข้อตกลงระหว่างเขากับทางดิสนีย์และลูคัสฟิล์ม ทำให้ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการบังคับกลาย ๆ ให้เขาต้องปรากฏตัวใน Star Wars อีกครั้งหนึ่ง

          อย่างไรก็ตาม โปรเจคท์ Indiana Jones 5 ยังไม่ได้การยืนยันจากทางดิสนีย์แต่อย่างใด แต่ทางสตูดิโอได้ครอบครองสิทธิ์ในการผลิตหนังแฟรนไชส์เรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยคาดว่าในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาเพื่อความสมบูรณ์ต่อไป

แบรดลีย์ คูเปอร์ จ่อนั่งแท่นโปรดิวซ์และนำแสดง ใน American Blood

วอร์เนอร์ บราเธอร์ส เตรียมสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ดัดแปลงจากนวนิยายที่ชื่อว่า American Blood ผลงานของนักเขียนชาวนิวซีแลนด์ เบน แซนเดอร์ (Ben Sanders) โดยวางตัวให้ แบรดลีย์ คูเปอร์ (Bradley Cooper) มารับหน้าที่แสดงนำและควบคุมการผลิต โดยในขณะนี้ ยังมีอีกอย่างน้อย 1 สตูดิโอที่สนใจทำโปรเจคท์ดังกล่าว รวมถึงบริษัทผลิตรายการทีวีอีกหลายแห่งก็ให้ความสนใจเช่นกัน ในขณะที่ต้นฉบับของหนังสือเรื่องนี้ยังคงไม่เสร็จสมบูรณ์

          สำหรับ American Blood คือนวนิยายแนวดราม่า-อาชญากรรม เล่าเรื่องราวของ มาร์แชล เกรด (Marshall Grade) ตำรวจ NYPD ที่ต้องเข้าสู่โครงการคุ้มครองพยานในรัฐ New Mexico ภายหลังจากที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นสายสืบ เขาได้เข้าไปพัวพันกับการสืบสวนที่อันตราย ที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของหญิงสาวคนหนึ่ง

          โดยในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ผู้ที่ทำหน้าที่ดัดแปลงบทได้แก่ แอนดรูว์ โซดรอสกีย์ (Andrew Sodroski) ซึ่งนอกจากเรื่อง American Blood นี้แล้ว ยังมีแนวโน้มว่าคอหนังจะได้ชมภาคต่อของเรื่องนี้อีกค่อนข้างแน่นอน เนื่องจากหนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือชุด โดยเล่มแรกมีแผนออกวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2015

          และสำหรับใครที่ทนคิดถึงพระเอกคนดังไม่ไหว ก็สามารถติดตามผลงานอื่นของเขาได้ ซึ่งเร็ว ๆ นี้เขาจะมีผลงานการพากย์เสียงตัวละคร ร็อคเก็ต แรคคูน (แรคคูนกระสุนเดือด) ในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของค่าย มาร์เวล เรื่อง Guardians of the Galaxy รวมถึงเขากำลังเตรียมถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Amarican Sniper ของผู้กำกับ คลินท์ อีสต์วูด (Clint Eastwood) อีกเช่นกัน

The Monkey King ไซอิ๋ว 3D ตอนกำเนิดราชาวานร

นับตั้งแต่ยุคเริ่มแรก โลกเรามีการดำรงอยู่ของสามเผ่าพันธุ์ มนุษย์ เทพและปีศาจ ด้วยอำนาจที่มีอยู่จำกัด มนุษย์จึงใช้ชีวิตอยู่ได้บนโลกมนุษย์เท่านั้น ในขณะที่เทพเจ้าและปีศาจได้สู้รบกันเพื่อครองสรวงสวรรค์ นำมาสู่การทำสงครามกันหลายต่อหลายครั้ง ระหว่างสงครามครั้งหนึ่ง เผ่าพันธุ์ปีศาจได้ถูกปราบและถูกเนรเทศออกจากสวรรค์ ไปใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์บนโลก เทพเจ้าได้ส่งทหารสวรรค์ไปยังโลกมนุษย์เพื่อกำจัดเผ่าพันธุ์ปีศาจที่เหลือให้สิ้นซาก ซึ่งทำให้พวกปีศาจต้องเร้นกาย และต้องทนต่อความอับอายขายหน้าและการเสื่อมเสียเกียรติ

          ด้วยความที่ทุกสิ่งถูกทำลายล้างจนสิ้นระหว่างสงครามครั้งใหญ่นั้น  เจ้าแม่หนี่วา ผู้สร้างสรรค์โลก ได้ใช้หินวิเศษซ่อมกำแพงสวรรค์ แล้วหินก้อนหนึ่งได้พลัดตกลงมาบนโลก และร่วงลงมาบนภูเขาฮัวกั่ว หินวิเศษก้อนนั้นได้ซึมซับพลังแห่งสวรรค์และโลกมนุษย์ รวมถึงแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งสุริยันจันทรา สิ่งมีชีวิตวิเศษได้ถูกหล่อเลี้ยงขึ้นมาภายในหินวิเศษ และ ลิงตัวหนึ่งก็ได้โผล่ออกมาจากหิน เมื่อสุโพธิเถระได้เดินทางมาพบกับลิงตัวนี้  เลยพากลับไปยังถ้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อสั่งสอนวิชาต่างๆ ให้ และตั้งชื่อเขาว่า "ซุนหงอคง"


          หงอคงตั้งใจศึกษาพระคัมภีร์และเริ่มทำความเข้าใจกับวิถีของโลกใบนี้  แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาแปลกพิกลและความซุกซนทำให้เขามักถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก โชคดีที่ไฉ่หวิน ศิษย์น้องคนหนึ่งของเขา มักจะคอยปกป้องเขา หลังจากเรียนสำเร็จ หงอคงกลับไปยังภูเขาฮัวกั่วและใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบท่ามกลางฝูงลิงในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง ก่อนจะประกาศตนเป็นพญาวานรโสภา

          แล้ววันหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ เด็กสาวที่กำลังถูกทหารสวรรค์ไล่ล่า นางคือจิ้งจอกเก้าหาง ไป๋หรูเสวี่ย พ่อแม่ของเธอถูกทหารสวรรค์สังหารอย่างโหดเหี้ยม ทิ้งให้เธอต้องร่อนเร่พเนจรตามลำพัง แต่ทหารสวรรค์ไม่ยอมปล่อยเธอไป หงอคงสะเทือนใจกับเรื่องของเธอและเสนอตัวคุ้มครองเธอ หลังจากนั้น เขาก็ประกาศว่าปีศาจทุกตนสามารถมาหลบภัยที่ภูเขาฮัวกั่วได้

          ข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว หงอคงและฝูงลิงของเขายืนหยัดต่อต้าน กองกำลังสวรรค์ ปีศาจต่าง ๆ ได้มุ่งหน้าไปยังภูเขาฮัวกั่วเพื่อพบกับหงอคง ในการพบกับร้อยปีศาจ หงอคงได้รับดาบวิเศษที่จะเป็นสมบัติแห่งภูเขาลูกนี้ได้ ด้วยความยินดี หงอคงได้รับดาบนั้นมาควงเล่น แต่เมื่อเขาแทงมันลงกับพื้นดิน ดาบนั้นกลับแตกเป็นสองซีก หงอคงจึงถามถึงที่ที่เขาจะไปตามหาอาวุธศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ มาเป็นสมบัติคู่ภูเขาแห่งนี้ได้ หรูเสวี่ยได้บอกเขาว่าสมบัติเช่นนั้นจะพบได้ในสถานที่สามแห่งเท่านั้นคือพระราชวังของฮ่องเต้บนโลกมนุษย์ พระราชวังของเง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์และพระราชวังมังกรในทะเลตะวันออก และภายใต้สะพานเหล็กในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอพูด ด้วยแรงยุจากบรรดาลิงและปีศาจ เขาก็ได้ทะยานขึ้นฟ้าและมุ่งหน้าเข้าไปในถ้ำทันที

          หงอคงเข้าไปในพระราชวังมังกรเพื่อพบกับพญามังกร ด้านพญามังกรตั้งใจจะทำให้เขาอับอายด้วยการให้เขาทดลองยกเสาค้ำทะเลเวทมนตร์ ซึ่งเป็นสมบัติที่ใช้เรียกน้ำลงมาในทะเล มันเป็นเสาเหล็กขนาดใหญ่ที่สลักคำว่า "กระบองฟ้าอู่อี้ หนัก 35,000 กิโล" หงอคงเอามือทั้งสองจับเสาไว้และยกมันขึ้นด้วยกำลังทั้งหมดของเขา เสานั้นถูกยกขึ้นได้อย่างง่ายดาย ทำให้ท้องทะเลสั่นสะเทือนไปหมด หงอคงยินดีที่ได้พบกระบองที่สามารถยืดหดได้ดังใจ ขณะที่หงอคงพยายามเอากระบองนั้นไป พญามังกรได้หยุดเขาไว้และสั่งให้ทหารแย่งชิงกลับคืนมา หงอคงใช้กระบองฟ้าฟาดฟันออกไป และภายในเวลาชั่วอึดใจ พระราชวังมังกรก็ถูกถล่มจนสิ้นซาก

          ณ ถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงอวดสมบัติที่ได้มากับบรรดาลิงและปีศาจ พวกเขาต่างเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี เว้นแต่หรูเสวี่ย ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ เพราะทะเลเกิดหายนะคลื่นยักษ์ชีวิตมากมายจะต้องล้มหายตายจาก แต่หงอคงกลับเพิกเฉย ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลต้องหนีหัวซุกหัวซุนด้วยความหวาดกลัว หรูเสวี่ยไปเพื่อช่วยเหลือคนชราและผู้อ่อนแอ  หงอคงปรากฏตัวขึ้นและช่วยเหลือเธอรักษาชีวิตทารกเอาไว้ หลังจากหายนะครั้งนั้น หงอคงได้มอบไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ที่ให้กับหรูเสวี่ยเป็นของแทนใจ หรูเสวี่ยที่ประทับใจกับความจริงใจของเขา ก็คืนดีกับเขาในที่สุด

          คลื่นยักษ์สร้างความเสียหาย ภูเขาถูกน้ำท่วม ปีศาจกระทิง รู้สึกโกรธเคืองและต้องการจะล้างแค้น ในขณะเดียวกัน พญามังกรก็ไปร้องทุกข์กับเง็กเซียนฮ่องเต้ เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ได้ฟังก็ทรงกริ้ว และส่งหลี่จิ้ง และนาจา มายังโลกเพื่อจับผู้กระทำผิด เมื่อเผชิญหน้ากับขุนพลสวรรค์ หงอคงนำหรูเสวี่ยและฝูงลิงมาร่วมรบด้วย กองทัพปีศาจที่นำโดยปีศาจกระทิงก็มาถึง ด้วยความเชื่อว่าปีศาจพวกนี้ยกทัพมาช่วยหงอคง หลี่จิ้งและนาจาจึงถอนกำลังกลับไปยังสวรรค์ก่อน
 
          หงอคงเลยต้อนรับปีศาจกระทิงอย่างอบอุ่นและรับรองผู้มาเยือนในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง ระหว่างงานเลี้ยง หงอคงรู้สึกว่าปีศาจกระทิงเป็นพวกเดียวกับเขา ทั้งคู่สนิทสนมกันและสาบานที่จะยึดครองโลกด้วยกัน พวกเขายกย่องกันและกันด้วยสมญานาม "มหาปราชญ์ผู้เสมอสวรรค์" และ "มหาปราชญ์ผู้ปราบสวรรค์"

          บนสวรรค์ หลี่จิ้งแบกร่างที่ได้รับบาดเจ็บกลับไปรายงานกับเง็กเซียนฮ่องเต้ ทำให้ เง็กเซียนฮ่องเต้พิโรธหนักและประสงค์จะส่งกองทัพไปกำราบลิงกลุ่มนี้ แต่สุโพธิเถระเข้ามาขอเสนอที่จะเกลี้ยกล่อมหงอคงและให้หงอคงมาอยู่ภายใต้การดูแลของสวรรค์

          ณ ยอดเขาฮัวกั่ว หงอคงและหรูเสวี่ยสาบานที่จะอยู่ด้วยกันชั่วฟ้าดินสลายที่ภูเขาหิมะ ในขณะที่ทั้งคู่หวานชื่นอยู่ด้วยกัน จู่ ๆ สุโพธิเถระก็ปรากฏตัวขึ้น หงอคงแปลกใจและยินดีที่ได้เจออาจารย์อีกครั้ง แต่สุโพธิเถระกลับไม่พอใจที่เห็นหงอคงหมกมุ่นอยู่กับปีศาจ สุโพธิเถระเล่าให้หงอคงฟังถึงคำเชิญจากสวรรค์ หรูเสวี่ยคัดค้านอย่างหนัก เธอเชื่อว่า พวกเขาอาจจะกลั่นแกล้ง เธอกล่าวทั้งน้ำตาอีกว่าถ้าหงอคงขึ้นไปสวรรค์ เขาก็จะลืมเธอและเพื่อนลิงในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงลำบากใจที่ต้องเลือกระหว่างอาจารย์และหรูเสวี่ย ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกระโดดตีลังกาขึ้นฟ้า มุ่งหน้าไปยังสวรรค์พร้อมกับอาจารย์ของเขา

          สุโพธิเถระและหงอคงมาถึงยังพระราชวังสวรรค์เพื่อเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ หงอคงได้รับตำแหน่ง "มหาปราชญผู้เสมอสวรรค์" ได้รับมอบหมายให้ดูแลคอกม้าสวรรค์ หงอได้พบกับนางฟ้า ไฉ่หวิน ศิษย์รุ่นน้อง ที่ไม่ได้พบหน้ามาหลายปี  สุโพธิเถระขอให้ไฉ่หวินนำทางหงอคงไปยังคอกม้าสวรรค์ ระหว่างทาง หงอคงมองดูรอบ ๆ และรู้สึกอัศจรรย์กับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจภาพชวนมองนั้นมีไม่รู้จักจบจักสิ้น หงอคงกำลังครุ่นคิดที่ว่าสวรรค์เป็นสถานที่ที่วิเศษสุดจริง ๆ และ เขาจะพาหรูเสวี่ยพร้อมกับกลุ่มลิงมาเสพสุขที่นี่ด้วยกัน

          คอกม้าสวรรค์ดูน่าเบื่อ หงอคงเลยคิดเกมขว้างเมฆขึ้นมาและเล่นกับไฉ่หวินอย่างมีความสุข จู่ ๆ นาจาก็โผล่เข้ามาร่วมวงด้วย เกมนี้เริ่มจริงจัง บรรดาคนเลี้ยงม้าและไฉ่หวินจับตามองการต่อสู้ด้วยความทึ่ง ในที่สุดทั้งหงอคงและนาจาต่างก็หมดแรง พวกเขานอนลงพักผ่อน ในที่สุดความบาดหมางระหว่างทั้งคู่ก็สิ้นสลายไปหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น

           ในขณะเดียวกันที่ปีศาจกระทิงเร่งฝึกกองทัพปีศาจลับ ทันใดนั้นเอง หรูเสวี่ยก็ปรากฏตัวขึ้น ปรากฏว่าจริง ๆ แล้ว เธอคือสายลับที่ทำงานให้กับปีศาจกระทิง ! หลังจากได้ยินรายงานของเธอ ปีศาจกระทิงก็ตบเธอที่ปล่อยให้หงอคงไปสวรรค์ แต่หรูเสวี่ยมั่นใจว่าหงอคงจะไม่อยู่บนสวรรค์นานและจะกลับมาพบกับเธออีกในไม่ช้านี้

          ณ ถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงเห็นหรูเสวี่ยนั่งรอการกลับมาของเขาอย่างไม่ไหวติงตรงหน้าปากถ้ำ หงอคงรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับความรักและความใส่ใจที่หรูเสวี่ยมีต่อเขา แต่เทพบนสวรรค์กลับเย็นชา ส่วนเง็กเซียนฮ่องเต้เองก็เสแสร้งและปากอย่างใจอย่าง หงอคงแบ่งปันผลท้อทิพย์ให้หรูเสวี่ยและฝูงลิงกิน กองทัพสวรรค์ที่นำโดยเทพเอ้อหลางและเทพองค์อื่น ๆ ก็มาถึง พวกเขาได้รับบัญชาจากเง็กเซียนฮ่องเต้ให้มากำจัดหงอคงและลิงทุกตัวให้สิ้นซาก

          หงอคงมีความสามารถมากกว่าเทพเอ้อหลางและเทพองค์อื่น ๆ แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นพี่น้องลิงและหรูเสวี่ยล้มตายไปต่อหน้าได้ หงอคงจึงหลบเข้าไปในถ้ำ เทพเอ้อหลางสั่งให้ทหารเผาภูเขาแห่งนี้ หงอคงยืนกรานที่จะสู้จนถึงวาระสุดท้ายกับทุกคน ในตอนที่สถานการณ์เลวร้ายลง ปีศาจกระทิงได้เข้ามาช่วยเหลือพวกเขาพร้อมกับราชันย์ปีศาจ 72 ถ้ำ เข้าร่วมกับหงอคงสู้กับกองทัพสวรรค์ และในที่สุดพวกเขาก็สามารถขับไล่เทพเอ้อหลางและเทพองค์อื่น ๆ ไปได้ หงอคงซาบซึ้งกับความช่วยเหลือของปีศาจกระทิงอย่างมาก แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็พบว่าหรูเสวี่ยหายตัวไป ปีศาจกระทิงอ้างว่าเห็นหรูเสวี่ยถูกทหารสวรรค์จับตัวไป และหรูเสวี่ยจะถูกเผาเป็นเถ้าภายในหม้อหลอมยาอายุวัฒนะ และหายไปตลอดกาล หงอคงตัดสินใจจะไปช่วยหรูเสวี่ยให้ได้
       
          หงอคงและปีศาจกระทิงได้มาถึงยังประตูสวรรค์ทิศใต้ พวกเขาดูทรงพลัง แข็งแกร่งและพร้อมที่จะจู่โจมขั้นเด็ดขาด หงอคง ทำลายกำแพงสวรรค์พังครืนลงมา ชิ้นส่วนคมกริบเหล่านั้นแทงทะลุร่างของหงอคง เขาได้รับบาดเจ็บทั่วร่างเง็กเซียนฮ่องเต้และเทพองค์อื่น ๆ มั่นใจว่าหงอคงจะต้องสิ้นชีพในไม่ช้า แต่สุโพธิเถระไม่ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เขาจึงไปยังประตูเพื่อเกลี้ยกล่อมให้หงอคงล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำลายกำแพง แต่หงอคงตั้งใจจะช่วยหรูเสวี่ยให้ได้ แม้ว่าอาจารย์จะโกรธและดุด่า เขาก็ยังคงแน่วแน่ เขาโทษสวรรค์ที่หลอกลวงเขา ต่างกับปีศาจที่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนพี่น้อง หงอคงกล่าวโทษอาจารย์ว่าเป็นคนเสแสร้งและผลักไสเขาไป ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่หงอคงเมื่อเศษหินทิ่มแทงทะลุร่างต่าง ๆ ของเขา หงอหมดแรงล้มลงพร้อมเสียงคำรามดังสนั่น กำแพงหินวิเศษถูกทำลายลง ทำให้ประตูสวรรค์ทิศใต้เหลือเพียงซากปรักหักพัง ดังนั้นเอง กองทัพปีศาจที่นำโดยปีศาจกระทิงจึงผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และมุ่งหน้าโจมตีพระราชวังสวรรค์ เทพและทหารสวรรค์ที่นำโดยเง็กเซียนฮ่องเต้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามครั้งใหญ่นี้อยู่แล้ว หลังจากเวลานับพัน ๆ ปี สงครามระหว่างเทพและปีศาจกำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้งหนึ่งนับจากนี้…

Open Grave ผวา ศพ นรก

 เรื่องราวของชายหนุ่มตื่นขึ้นมาท่ามกลางกองศพนับพัน เขาปราศจากความทรงจำว่าเขาเป็นใครและเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็เดินออกไปพบกับกระท่อมหลังหนึ่งซึ่งเขาก็พบว่ามีคนอีก 5 คนมีอาการเดียวกับเขา พวกเขาจำเป็นจะต้องนึกให้ได้ว่าพวกเขาเป็นใครและมาทำอะไรอยู่ที่นี่เพราะมันอาจเป็นทางรอดเดียวก่อนที่ความสยดสยองจะคืบคลานใกล้เข้ามา

          เรื่องนี้ได้นักแสดงนำขวัญใจคอวิจารณ์อย่าง ชาร์ลโต คอปลี่ จาก District 9 และ Elysium และได้ผู้กำกับอย่าง กอนซาโล่ โลเปซ กาลเลโก้จากภาพยนตร์สยองขวัญเรื่อง Apollo 18



3 Days to Kill 3 วันโคตรอันตราย

       ผลงานจากนักแสดงชายเจ้าบทบาทเจ้าของ 2 รางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Dances with Wolves  เควิน คอสต์เนอร์ มีโคจรมาพบกับสาวน้อยมากพรสวรรค์ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วยวัยเพียง 17 ปีจากภาพยนตร์เรื่อง True Grit อย่าง เฮลีย์ สไตน์เฟลด์



          เรื่องราวของเจ้าหน้าที่สืบราชการลับ อีธาน รันเนอร์ (เควิน คอสต์เนอร์) ค้นพบว่าตัวเองกำลังจะตายในไม่ช้า เขาจึงตัดสินใจที่จะลาออกจากการทำงานเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัวที่เขาเคยละเลยในอดีต แต่แล้ววันหนึ่งอีธานก็ได้รับข้อเสนอจากที่ทำงานในการทดลองใช้ยาที่เพิ่งได้รับการคิดค้น ซึ่งจะสามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้ โดยแลกเปลี่ยนกับการที่เขาจะต้องทำภารกิจลับบางอย่าง อีธานตัดสินใจที่จะรับข้อเสนอนี้ซึ่งนำไปสู่ประสบการณ์สุดลึกลับและตื่นเต้นอย่างที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

เกร็ดภาพยนตร์

          1. Three Days To Kill คือผลงานภาพยนตร์คุณภาพที่การันตีโดยฝีมือผู้อำนวยการสร้างไรอัน คาวานอเจ้าของผลงานสุดเจ๋ง ที่ชนะรางวัลออสการ์มาแล้วอย่าง The Girl with the Dragon Tattoo, The Fighter รวมทั้งยังได้นักเขียนบทชั้นเซียนอย่าง ลุค เบสซง ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งยอดฝีมือตัวพ่อแห่งวงการที่ใคร ๆ ก็ต้องยกนิ้วให้ในฝีไม้ลายมือของเขา

          2. พบกับการคืนฟอร์มของนักแสดงคุณภาพ ที่ถือเป็นอีกตำนานหนึ่งคนของวงการอย่าง เควิน คอสต์เนอร์ ผู้เคยได้รับรางวัลออสการ์มาแล้วถึงสองครั้ง โดยในคราวนี้ เขาจะมาร่วมงานกับนักแสดงสาวดาวรุ่งที่ฮอตและมาแรงที่สุดในขณะนี้อย่าง เฮลี สไตน์เฟลด์ สาวน้อยมหัศจรรย์ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น