วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ลือสนั่น ทอม ฮิดเดิลสตัน อาจรับบทนำ The Crow รีเมค


นับว่าเป็นเวลานานทีเดียวสำหรับการสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Crow เวอร์ชั่นรีเมค เพราะตลอด 4 ปีนับตั้งแต่มีข่าวออกมาว่าจะสร้าง หนังเรื่องนี้ก็เปลี่ยนผู้กำกับมาหลายคน ตั้งแต่ สตีเฟ่น นอร์ริงตัน (Stephen Norrington) ไปจนถึง ฮวน คาร์ลอส เฟรสนาดิลโล (Juan Carlos Fresnadillo) และปัจจุบันก็มาอยู่ในมือของ เอฟ ฌาแวร์ กูเทียเรซ (F. Javier Gutierrez)

          ในขณะที่นักแสดงนำก็มีข่าวออกมาอยู่เรื่อย ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น มาร์ค วอห์ลเบิร์ก (Mark Wahlberg), แบรดลีย์ คูเปอร์ (Bradley Cooper) และ เจมส์ แม็คอาวอย (James McAvoy)ซึ่งล่าสุดตอนนี้ก็มีรายงานเรื่องพระเอกตัวเก็งอีกคนออกมาแล้ว และเขาก็คือ ทอม ฮิดเดิลสตัน (Tom Hiddleston) ตัวร้ายคนดังจากเรื่อง Thor และ The Avengers นั่นเอง

          โดยมีรายงานว่าทอมได้ไปนั่งทานอาหารพูดคุยกับโปรดิวเซอร์ของเรื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ แถมระหว่างที่นัดพบกัน เขายังเอารูปถ่ายที่ลงทุนแต่งหน้าตามบทด้วยฝีมือตัวเองไปให้ดูอีกด้วย ซึ่งทีมงานก็ดูจะประทับใจอยู่ไม่น้อย จึงได้มีโครงการจะนัดเขามาให้ช่างแต่งหน้าลงมืออย่างจริงจังดูสักครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับบทหรือเปล่า

          ซึ่งพอมาคิด ๆ ดูแล้ว หากทีมงานจะเลือกให้ทอมได้บทนี้ไปจริง ๆ ก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลย ในเมื่อผลงานในบทบาทโลกิของเขาพิสูจน์ให้คนเห็นแล้วว่าเขาสมกับเป็นมืออาชีพจริง ๆ โดยทำให้ตัวละครนี้ดูจับต้องได้ มีทั้งความอิจฉาริษยาเป็นปม ไม่ใช่ตัวร้ายที่มีเพียงด้านเดียว ยิ่งไปกว่านั้นการจะหาดาราที่ชื่นชอบในภาพยนตร์ถึงขนาดลงทุนแต่งหน้ามาเองก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ การทุ่มเทเพื่อบทบาทของเขาจึงน่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ

มิกกี้ เมาส์ และ โรเจอร์ แรบบิท โคจรมาพบกันใน The Stooge


หลังจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Who Framed Roger Rabbit? เมื่อปี 1988 ประสบความสำเร็จไปพอสมควร จน แกรี่ เค วูล์ฟ (Gary K. Wolf) คนเขียนบทสนใจจะสร้างภาคต่อขึ้นมา ทำให้มีข่าวออกมาว่าภาคต่อที่ว่านี้จะออกมาแปลกใหม่ไม่ธรรมดาผิดคาด โดยเขาวางแผนไว้ว่าจะให้มันมีชื่อว่า The Stooge และเป็นเหมือนกับรีเมคของหนังเรื่อง The Stooge เมื่อปี 1952 พร้อมกับเป็นภาคต่อของ Who Framed Roger Rabbit? ในตัว


 ซึ่งแกรี่ได้ออกมาอธิบายเกี่ยวกับข่าวนี้ด้วยตัวเองแล้วว่า มันไม่เป็นความจริง เพราะเขาตั้งใจจะสร้างทั้ง The Stooge และ Who Framed Roger Rabbit? 2 เป็นคนละเรื่องกันโดยใน The Stooge โรเจอร์ แรบบิท จะไม่ได้มาเพียงลำพัง แต่จะมาพร้อมกับตัวการ์ตูนชื่อดังของดิสนีย์อย่าง มิกกี้ เมาส์ ด้วย แถมยังจะมีตัวละครดิสนีย์ตัวอื่น ๆ ตามมาด้วย เช่น โดนัลด์ ดั๊ก เป็นต้น นอกจากนี้ฉากจะเป็นสถานที่หลัก ๆ ของ Disneyland park ในขณะที่เอา วอลต์ ดิสนีย์ (Walt Disney) และ ออร์สัน เวลส์ (Orson Welles) มาโลดแล่นบนจอผ่านเทคนิคโมชั่นแคปเจอร์

ทั้งนี้เขาวางแผนไว้ว่าอยากให้ The Stooge เข้าฉายภายในปี 2016 แต่ไม่ว่าโปรเจคท์นี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ก็คงต้องรอการอนุมัติจากค่ายดิสนีย์เสียก่อน เพราะเนื้อเรื่องหลัก ๆ มีตัวละครจากดิสนีย์อยู่มาก ซึ่งการจะเอา มิกกี้ เมาส์ มาฉาย ก็คงต้องรอการพิจารณาจากดิสนีย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

          และแม้ตอนนี้จะยังไม่มั่นใจว่า The Stooge เวอร์ชั่นปี 2016 ที่นำแสดงโดย มิกกี้ เมาส์ กับ โรเจอร์ แรบบิท จะถูกสร้างแน่ ๆ หรือไม่ แต่แกรี่ก็เปรยไว้แล้วว่าเขาต้องการเอาใครมาเป็นคนพากย์เสียงบ้าง ซึ่งได้แก่ ทอม แฮงค์ส (Tom Hanks) กับบท วอลต์ ดิสนีย์, ไรอัน กอสลิ่ง (Ryan Gosling) ในฐานะ จิมมี่ สจ๊วต, แซมมวล แอล แจ็คสัน (Samuel L. Jackson) รับบท หลุยส์ อาร์มสตรอง ในขณะที่ เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) พากย์เสียง ออร์สัน เวลส์

เอาแล้ว กิลเลอร์โม เดอ โทโร่ โต้ Pacific Rim ปล่าวก๊อป Transformers


ดูเหมือนจะถึงคราวที่หนังฟอร์มยักษ์อย่าง Pacific Rim และ Transformers จะต้องถูกเปรียบเทียบกันไปอีกนานซะแล้ว เมื่อในงาน CinemaCon ตอนโปรโมทภาพยนตร์อีกเรื่องที่เขากำกับอย่าง Pain & Gain ไมเคิล เบย์ (Michael Bay) เจ้าของผลงาน Transformers พูดออกมาว่า ช่วงนี้มีหนังหุ่นยนต์เลียนแบบตามออกมาบ้างเหมือนกัน ซึ่งแฟน ๆ คงจะรู้ดีที่สุดว่ามีเรื่องไหนบ้าง

          ร้อนให้ กิลเลอร์โม เดอ โทโร่ (Guillermo del Toro) ต้องออกมาพูดปกป้องหนังของตัวเองอย่าง Pacific Rim ก่อนที่คนดูจะเข้าใจผิด แม้ว่า ไมเคิล เบย์ จะยังไม่ได้พูดชัด ๆ ว่าหนังที่ว่าคือ Pacific Rim ก็ตาม ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร The Hollywood Reporter ว่าหนังของเขาไม่ได้ใกล้เคียงกับ Transformers เลยสักนิด มันเป็นสิ่งที่เขาสร้างเพื่อจักรวาลของเขาเอง และเขาก็ไม่ได้สร้างมันขึ้นมาเพื่อให้คนเอาไปเปรียบเทียบกับเรื่องอื่นด้วย


          อีกทั้งยังเสริมว่าหุ่นยนต์ของเขามีขนาดสูงใหญ่ประมาณตึก 25 ชั้น ซึ่งใหญ่โตกว่าพวกหุ่นยนต์ของ Transformers เป็นไหน ๆ แถมหุ่นใน Pacific Rim ยังสู้กับพวกเอเลี่ยนต่างดาวอีกต่างหาก ซึ่งการต่อสู้เกิดขึ้นท่ามกลางพายุหิมะที่รุนแรง ไม่ใช่ต่อสู้ในสิ่งแวดล้อมรอบข้างที่ดูเหมือนโฆษณารถยนต์อย่างไรอย่างงั้นแบบภาพยนตร์บางเรื่อง

          ซึ่งหลังจาก กิลเลอร์โม เดอ โทโร่ ออกตัวพูดเสียชัดขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้มีสงครามน้ำลายระหว่างสองเรื่องตามมาหรือไม่ รวมทั้งจะช่วยให้แฟน ๆ เลิกหรือยิ่งเปรียบเทียบหนักกว่าเก่าก็ยังไม่แน่เหมือนกัน ส่วนคนที่รักภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องก็คงเต็มใจดูทั้งสองอย่างโดยไม่เอามาปนกันให้วุ่นวายหรอกจริงไหม? ดังนั้นในวันที่ Pacific Rim เข้าฉายในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ และ Transformers 4 เข้าฉายในวันที่ 27 มิถุนายนปี 2014 ใครเป็นแฟนเรื่องไหนก็อย่าลืมไปสนับสนุนกันด้วยนะคะ

มาร์เวล ทุ่มไม่อั้น สร้างกองทัพชุดเกราะ 42 ชุด ใน Iron Man 3


Iron Man 3 โดย มาร์เวล สตูดิโอส์ ได้นำซูเปอร์ฮีโร่มหาเศรษฐี เพลย์บอย อัจฉริยะสุดเกรียน โทนี  สตาร์ค / ไอรอน แมน มาประชันกับศัตรูผู้ไร้ขีดจำกัด เมื่อสตาร์คพบว่าโลกส่วนตัวของเขาถูกทำลายลงด้วยฝีมือศัตรู เขาก็ออกเดินทางเสี่ยงอันตรายเพื่อตามหาคนที่จะมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ทั้งหมด เขาจะพบกับบททดสอบความกล้าหาญของเขาในทุกย่างก้าวและต้องต่อสู้เพื่อหาทางกลับไปสู่จุดนั้นให้ได้ สตาร์จะต้องค้นหาคำตอบสำหรับคำถามที่ตามหลอนในใจให้ได้ว่า "วีรบุรุษเป็นผู้สร้างชุดเกราะหรือชุดเกราะก่อเกิดวีรบุรุษกันแน่" านนี้มาร์เวลเอาใจแฟนสุดชีวิต ทุ่มทุน สร้างชุดเกราะ ไอรอน แมน ถึง 42 ชุด เพื่อใช้ในการถ่ายทำ
          เชน เบล็ค ผู้กำกับเล่าว่า "ในตอนเริ่มต้นเรื่อง เรามีชุดเกราะไอรอน แมน 42 ชุดครับ ชุดที่ใหม่ที่สุดจะมีเทคโนโลยีที่บอกใบ้เป็นนัย ๆ ในการ์ตูน แต่เราก็สร้างมันขึ้นมาในแบบที่ต่างออกไปหน่อย ๆ โทนีได้ฝังชิ้นส่วนเล็ก ๆ ไว้ใต้ผิวภายนอกของเขาที่จะสามารถเรียกชุดเกราะออกมาได้ ในตอนที่เขาต้องการ ดังนั้นแม้ว่ามันจะยังคงแข็งแกร่งดุจหินผาและสามารถปกป้องเขาจากห่ากระสุนได้ แต่มันก็จะยืดหยุ่นพอ ที่เขาจะสามารถถอดชุดเกราะออกแล้วโยนมันใส่คนอื่นได้ ผมจำได้ว่าผมกับ ดรูว์ เพียร์ซ ที่เป็นมือเขียนบทร่วมกันกับผม พวกเราตื่นเต้นสุด ๆ ตอนที่เรารู้ว่ามันน่าจะมีชุดเกราะพิเศษน่ะครับ สิ่งที่ทำให้ผมสนใจเอ็กซ์ตรีมมิสต์ในหนังสือการ์ตูนคือ คุณจะรู้สึกเหมือนว่าโทนี สตาร์ค สวมชุดเกราะไอรอนแมนเหมือนกับเขาซ่อนตัวในนั้น เขาคงไม่เรียกมันแบบนั้นหรอกแต่มันก็ทำนองนั้นเลย แต่กับพวกเอ็กซ์ตรีมมิสต์ คุณจะรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างลุกไหม้อยู่ในตัวพวกเขา ดังนั้น พวกเขาก็สามารถบอกกับโทนีได้ว่า "คุณน่ะแค่ขับรถ แต่ผมต่างหากเป็นรถ"

หนัง NOW YOU SEE ME




เป็นเรื่องราวของนักมายากลกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เพียงทำให้ผู้ชมทึ่งไปกับกลต่าง ๆ เท่านั้น แต่พวกเขายังสร้างชื่อจากการปล้นธนาคาร โดยใช้การแสดงเหล่านั้นบังหน้าระหว่างลงมือก่ออาชญากรรม จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เอฟบีไอต้องพยายามทำทุกวิธี เพื่อที่จะจับตัวพวกเขาให้ได้แบบคาหนังคาเขา และเดิมพันในการปล้นครั้งนี้ยิ่งสูงขึ้น เมื่อกลุ่มนักแสดงมายากลดังกล่าว ได้ประกาศว่า ทุกคนที่ร่วมชมการแสดงในครั้งนี้จะได้เงินเป็นรางวัลด้วย !

กำหนดฉาย : 30 พฤษภาคม 2556
นำแสดง : เจสซี ไอเซนเบิร์ก, วู้ดดี้ ฮาเรลสัน, อิสล่า ฟิชเชอร์, เดฟ ฟรังโก้, ไมเคิล เคน, มอร์แกน ฟรีแมน 
กำกับ : หลุยส์ เลแตร์ริเย่ร์


หนัง Jurassic Park 3D กำเนิดใหม่ไดโนเสาร์


กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ได้แก่ นักบรรพชีวินวิทยา ดร.อลัน แกรนท์ (แซม นีล) กับแฟนสาวดร.แอลลี่ (ลอร่า เดิร์น) และนักคณิตศาสตร์ ดร.เอียน มัลล์คอม (เจฟฟ์ โกลด์บลุม) ได้รับคำเชิญจากมหาเศรษฐีจอห์น แฮมม่อนด์ (ริชาร์ด แอทเทนบอรอจ) เพื่อมาเยี่ยมชม จูราสสิค พาร์ค เป็นคณะแรก แฮมมอนด์ต้องการทราบความคิดเห็นของนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้และเพื่อรับรองความปลอดภัยของสถานที่แห่งนี้ ขณะที่ทั้งหมดกำลังเยี่ยมชมกันอยู่นั้น เดนนิส เนิร์สลี่ย์ (เวย์น ไนท์) ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ของพาร์คก็ได้ยกเลิกระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมดออกเพื่อแอบเอาตัวอ่อน ของไดโนเสาร์หนีไปขาย ไดโนเสาร์ทั้งหมดก็อาละวาด เพราะกรงไฟฟ้าทำงานไม่ได้ อลันกับทิม หลานชายและ เล็กซ์ หลานสาวของแฮมม่อนด์ติดอยู่ในป่า ทั้งหมดต้องเอาชีวิตรอดจากสัตว์ดึกดำบรรพ์เหล่านี้




ขอต้อนรับกลับสู่ จูราสสิค พาร์ค 

          เนื่องในโอกาสครบรอบ 20 ปีของภาพยนตร์ที่เป็นหนึ่งในผลงานฮิตที่คงความนิยมมายาวนานที่สุดของยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ทางสตูดิโอตัดสินใจนำภาพยนตร์ดังเรื่องนี้กลับเข้าโรงฉายทั่วโลกอีกครั้ง โดยมีการแปลงภาพยนตร์ผจญภัยซึ่งเป็นที่ชื่นชอบและโปรดปรานของยูนิเวอร์แซลเรื่องนี้ให้กลายเป็นภาพยนตร์ 3D ด้วยความละเอียดและคมชัดของภาพระดับ 4K

          ขณะที่เทคโนโลยีปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงรูปแบบจนทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์สามารถเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้ เทคโนโลยี 3D สามารถนำคนดูก้าวเข้าสู่โลกของ Jurassic Park ที่ สตีเว่น สปีลเบิร์ก เคยจินตนาการงานถ่ายทำเอาไว้ในหัว รูปแบบของการออกแบบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้คนดูได้ก้าวสู่การเดินทางผจญภัยที่เหมือนหวนรำลึกถึงอดีตอย่างคาดไม่ถึงสำหรับคนที่เคยชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในปี 1993 แต่ยังเป็นโอกาสให้คนดูรุ่นใหม่ได้ร่วมผจญภัยเกินคาดฝันไปพร้อมกับเหล่าไดโนเสาร์ที่เหมือนจริงจนสุดมหัศจรรย์ที่เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ สแตน วินสตัน และอินดัสเทรียล ไลท์ แอนด์ เมจิค

          ถึงแม้คนรุ่นใหม่อาจเคยได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ทางจอเล็ก ๆ ของทีวี เมื่อ เล็กซ์และทิม ต้องหลอกล่อกับเจ้าเวโลซีแร็พเตอร์จอมเจ้าเล่ห์ และเคยต้องนั่งมองด้วยความยำเกรงเมื่อดร.แซ็ทท์เลอร์ และดร.แกรนท์ เดินไปเจอเข้ากับฝูงแบร็คซิโอซอรัสที่ดูงดงามตระการตาอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะดื่มด่ำไปกับภาพและเสียงของเกาะอิสลา นูบลาร์ที่เต็มไปด้วยอันตรายในแบบที่ ไมเคิล ไครชตัน และเดวิด โค๊ปป์ ได้เคยฝันเอาไว้ จนกระทั่งบัดนี้

          เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องแน่ใจว่า Jurassic Park ยังคงสร้างความสนุกสนานให้กับคนทุกวัย อันที่จริงเมื่อถูกสร้างออกมาเป็นอย่างดี เทคนิค  3D ได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าสู่โรงภาพยนตร์อย่างสมบูรณ์แบบ คนดูไม่ควรจะมุ่งหน้ากลับบ้านพร้อมกับพูดว่า "ฉากนั้นมีเอฟเฟกต์ 3D ที่ยอดเยี่ยมมาก!" แต่คุณควรได้รับประสบการณ์ที่โอบล้อมความคิดของคุณในจินตนาการที่ทรงพลัง เสียงดนตรีและเสียงสภาพแวดล้อมที่พุ่งทะยาน เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อภาพยนตร์ถูกแปลงไปเป็น 3D ทางทีมผู้สร้างได้ตั้งคำถามไว้ข้อหนึ่งว่า มันจะให้ความรู้สึกเช่นไรเมื่อนั่งอยู่ ณ ใจกลางวงออร์เคสตร้า

          เมื่อสปีลเบิร์กจับมือร่วมงานกับ สเตอริโอ ดี (STEREO D) ทีมที่เคยออกแบบให้กับงานแปลง 3D ของภาพยนตร์ Titanic พวกเขาได้นั่งพิจารณาภาพในภาพยนตร์ Jurassic Park แบบชอตต่อชอต เพื่อหาวิธีที่จะพัฒนาภาพยนตร์เรื่องนี้ และขยายประสาทสัมผัสของคุณออกไปในทิศทางใหม่ บัดนี้ เมื่อคุณได้ยินเสียงผีเท้าของทีเร็กซ์ และได้เห็นแก้วน้ำขยับสั่นกระเพื่อม เฝ้ารอให้ลูกแร็พเตอร์ฝักออกจากไข่ และได้เห็นรถเอ็กซ์พลอเรอร์พลัดตกจากที่กั้น คุณจะรู้สึกราวกับคุณได้ก้าวเข้าสู่ Jurassic Park เป็นครั้งแรก

          ยูนิเวอร์แซลหวังว่าคนดูคงจะเพลินเพลินไปกับ Jurassic Park ในรูปแบบ 3D เช่นเดียวกับที่ทีมงานที่ประกอบไปด้วยสมาชิกกว่า 700 คน ได้ทุ่มเทให้กับการปรับปรุงหนังให้เยี่ยมขึ้น สำหรับเพื่อน ๆ ผู้รักภาพยนตร์ของเรา เราเฝ้ารอเวลาอย่างใจจดใจจ่อถึงวินาทีที่คุณจะได้ยินงานดนตรีที่ยิ่งใหญ่ของ จอห์น วิลเลี่ยมส์ ที่นำพาเราย้อนกลับคืนสู่จุดที่ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น ในฐานะของผู้แสวงหาการผจญภัยและนักโบราณคดี เราได้ร่วมแบ่งปันความมหัศจรรย์ของการได้เห็นไดโนเสาร์เดินท่องไปบนโลกอีกครั้ง และในความยำเกรงเมื่อมนุษย์บุกไปที่นั่นเพื่อทักทายพวกมัน

ตัวอย่างหนัง Percy Jackson: Sea of Monsters



ปล่อยออกมาให้ได้ดูกันแล้ว สำหรับโปสเตอร์แรกของ Percy Jackson: Sea of Monsters สร้างมาจากนิยายขายดีของ ริค ไรเออร์แดน (Rick Riordan) ที่ทาง 20th Century Fox เป็นผู้เผยแพร่  ให้แฟน ๆ ได้ติดตามกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ทางค่ายหนังเพิ่งตัวอย่างแรกแรกให้ได้เห็นกันผ่านทาง เฟซบุ๊กทางการภาพยนตร์ Percy Jackson: The Sea of Monsters (2013)นำแสดงโดย โลแกน เลอร์แมน กลับมารับบท เพอร์ซี่ แจ็คสัน หนุ่มน้อยครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพอีกครั้ง  

          โดยใน Percy Jackson ภาค 2 นี้ จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ การเดินทางของหนุ่ม เพอร์ซี่ แจ็คสัน ที่ยังคงดำเนินต่อไป พร้อม ๆ กับผองเพื่อนกึ่งเทพกึ่งมนุษย์ เพื่อจะเอาขนแกะทองคำที่มีพลังอำนาจวิเศษกลับไปช่วยเหล่าครึ่งเทพและมนุษย์ทั้งหลายด้วยตัวเอง ซึ่งในการทำภารกิจให้สำเร็จ เพอร์ซี่ต้องเดินทางไปที่ดินแดนเร้นลับที่รู้จักกันในนาม Sea of Monsters เพื่อเอาขนแกะทองคำมา

          และในภาคนี้เราจะได้พบกับตัวละครใหม่ ๆ เพิ่มมาอีก อันได้แก่ คลาริส ลา ริว ลูกสาวของเทพแห่งสงครามแอรีส และ ไทสัน ยักษ์ตาเดียว โดยเพอร์ซี่จะมาค้นพบความจริงทีหลังว่า ไทสัน คือน้องชายต่างมารดา ที่เป็นลูกของเทพเจ้าโพไซดอนกับนางไม้นั่นเอง และนอกจากลูก ๆ ของเหล่าเทพแล้ว ยังมีเทพเจ้ากรีกที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง เฮอร์เมส เทพเจ้าส่งสาส์น รวมทั้ง ไดโอนีซุส เทพเจ้าแห่งไวน์ปรากฏตัวขึ้นด้วยเช่นกัน 
 
          อนึ่ง Percy Jackson: Sea of Monsters เป็นผลงานกำกับของ ทอร์ ฟรูเดนธอล (Thor Freudenthal) โดยมีดารานำแสดง อาทิ โลแกน เลอร์แมน (Logan Lerman), อเล็กซานดร้า แดดาริโอ  (Alexandra Daddario), แบรนดอน ที แจ็คสัน (Brandon T. Jackson), เลเวน แรมบิน (Leven Rambin), ดักลาส สมิธ (Douglas Smith), นาธาน ฟิลลัน (Nathan Fillion) และ สเตนลี่ย์ ทุชชี่ (Stanley Tucci) โดยมีกำหนดเข้าฉายพร้อมระบบ 3 มิติ วันที่ 16 สิงหาคมนี้ค่ะ

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2556

Penthouse North เสียดฟ้า เบียดนรก



ผลงานหนังระทึกขวัญของ มิเชล โมนาแกน นักแสดงนำจาก Source Code และ Mission Impossible III และกับ ไมเคิล คีตัน นักแสดงชื่อดังที่เคยรับบทเป็น แบทแมน ใน Batman และ Batman Returns ในเรื่องราวสุดระทึกของการไล่ล่าและชิงไหวชิงพริบ ระหว่างหญิงสาวกับโจรโฉด
ซาร่า (มิเชล โมนาแกน) นักข่าวสงครามได้รับบาดเจ็บที่อิรัก จนทำให้เธอสูญเสียการมองเห็น เธอตัดสินใจตัดขาดจากโลกภายนอกด้วยการอยู่แต่ในเพนท์เฮ้าส์สุดหรูใจกลาง นิวยอร์ค  แต่แล้วแต่ชีวิตของเธอก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อ ฮอลแลนเดอร์ (ไมเคิล คีตัน) โจรที่โหดเหี้ยมและมีจิตใจไม่ปกติ บุกเข้ามาในแมนชั่นเพื่อหาเพชรที่ถูกซ่อนอยู่ภายในอาคารหลังนี้… ในค่ำคืนที่สถานการณ์ตึงเครียดและมีความกดดันขึ้นเรื่อยๆ ซาร่า ต้องใช้ความสามารถทุกอย่างต่อสู้…เพื่อชีวิต
เพื่อความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นของ Penthouse North โจเซฟ รูเบน ได้ดึงตัวผู้กำกับภาพชาวอังกฤษ คริส ซีเกอร์ ซึ่งมีผลงานอย่าง  THE HOUR และ GAME OF THRONES  “เมื่อคุณจะสร้างภาพยนตร์ระทึกขวัญ คุณจะต้องทำการถ่ายทำเยอะมาก” ผู้กำกับรูเบนกล่าว “จากนั้นคุณก็จะต้องหานักตัดต่อมือเยี่ยมที่จะนำชิ้นส่วนเหล่านั้นมารวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความกดดันและระทึกใจ” เพราะเหตุผลนั้น รูเบนเลือกนักตัดต่อภาพยนตร์มือรางวัลอย่างแอนดริว มอนด์ไชน์ ซึ่งมีผลงานที่โด่งดังอย่าง THE SIXTH SENSE มาทำหน้าที่สำคัญนี้ “PENTHOUSE NORTH เป็นเรื่องราวที่ให้ความสำคัญกับตัวละครหลัก 3 ตัว แต่พวกเรารู้ว่าเราจะต้องให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมกับตัวละครตัวที่ 4 ด้วย นั่นก็คือบรรยากาศของเรื่อง เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องสร้างบรรยากาศที่ใช่สำหรับความเข้มข้นและความระทึกขวัญ  เพื่อให้คนดูลุ้นกับพวกเรา และ เอาใจช่วย ซาร่าห์ ไปด้วยตลอดทั้งเรื่องเลย

A Haunted House บ้านผีฮา

พารานอลมอล หมดมนต์ขลังแน่ เมื่อเจอกับ มัลคอล์ม (มาร์ลอน เวนส์) และ คีชา (แอซเซ่น แอตกินส์) ที่ได้ย้ายเข้ามาบ้านในฝันหลังใหม่ ระหว่างที่เขาได้มาอยู่ เขาพบว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียว และมีบางสิ่งสิงร่างของคีชา ทางมัลคอล์ม จึงได้เรียกบุคคลที่จะมาต่อกรกับปิศาจดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น บริษัทจำกัดผี หรืออาจารย์ปราบผี สุดฮา ฯลฯ เป็นต้น พร้อมกันล้อเลียนหนังสยองขวัญชุดใหญ่


Naruto the Movie: Road to Ninja นารูโตะ ตำนานวายุสลาตัน เดอะมูฟวี่ พลิกมิติผ่าวิถีนินจา



เรื่องราวเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ชายสวมหน้ากากในนามว่า โทบิ ได้ปลดปล่อยปิศาจจิ้งจอกเก้าหางออกมารุกรานหมู่บ้านโคโนฮะ แต่นามิคาเสะ มินาโตะ ผู้นำหมู่บ้านและอุซึมากิ คุชินะ ภรรยาของเขาสามารถกำราบได้สำเร็จ โดยผนึกพลังของจิ้งจอกเก้าหางไว้ในร่างของลูกชายนามว่า อุซึมากิ นารูโตะ
ปัจจุบัน ชาวบ้านต่างอยู่เย็นเป็นสุข แต่ความสงบสุขก็ถูกทำลายเมื่อมีองค์กรนินจาลึกลับนามว่า แสงอุษา ได้บุกโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ นารูโตะตกตะลึงว่าทำไมองค์กรแสงอุษาจึงกลับมาทั้งที่พวกเขาน่าจะตายไปนาน แล้ว ขณะเดียวกันชายสวมหน้ากากก็ใช้คาถาลึกลับทำร้ายนารูโตะและซากุระ แล้วส่งพวกเขาไปอยู่ในโลกอีกมิติหนึ่งที่ผองเพื่อนและบรรดาอาจารย์ของพวกเขา ได้เปลี่ยนไปยังกะคนละคน ซาสึเกะกลายเป็นหนุ่มเพลย์บอย ฮินาตะกลายเป็นสาวมั่นสุดร้อนแรง รวมถึงพ่อแม่ของนารูโตะยังมีชีวิตอยู่ และตำนานนินจาโฮคาเงะก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย ความจริงเบื้องหลังของโลกคู่ขนานใบนี้คืออะไร แล้วนารูโตะจะปกป้องหมู่บ้านโคโนฮะได้หรือเปล่า ต้องติดตามชมให้ดี 18 เมษายนนี้แน่

วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

ไบรอัน ซิงเกอร์ เผยภาพ ฌอน แอชมอร์ ในบท Iceman


ไบรอัน ซิงเกอร์ เผยภาพในทวิตเตอร์ของเค้าเอง @BryanSinger ซึ่งเป็นภาพของ ฌอน แอชมอร์ ที่รับบทเป็น Iceman จากหนัง X-Men: Days of Future Past ซึ่ง Iceman มีความสามารถของลดอุณหภูมิของร่างกายอย่างรวดเร็วทำให้สามารถเปลี่ยนความชื้นในอากาศให้เป็นน้ำแข็ง และกำลังอินเลิฟอยู่กับ Rogue
          X-Men: Days of Future Past ซึ่งภาคนี้ถือเป็นภาคที่เจ็ดแล้วของซีรีส์ X-Men นี้ โดยถือเป็นภาคแรกที่มีการถ่ายทำในรูปแบบสามมิติ ผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ ได้เผยถึงรายชื่อนักแสดงนำที่ตบเท้าเข้าร่วมแสดงในหนังภาคต่อว่ามีรายชื่อเหล่านักแสดงฝีมือดีมากมายที่ทั้งมาจากเรื่อง Game of Thrones อย่าง ปีเตอร์ ดิงค์ลาจ รวมไปถึงเหล่านักแสดงที่เคยได้เห็นผลงานกันมาแล้วจากภาคก่อน ๆ อย่าง แอนนา พาควิน (Rogue),เอลเลน เพจ (Kitty Pryde), ฮัลลี่ เบอร์รี่ (Storm), แดเนียล คัดมอร์ (Colossus) และ ฌอน แอชมอร์ (Iceman) ก็ตบเท้าเข้าร่วมแสดงในภาคนี้เช่นกัน

          ส่วน ฮิวจ์ แจ็คแมน นั้นก็จะรับเล่นในบท Wolverine อีกครั้ง รวมไปถึง เอียน แม็คเคลเลน และ แพททริค สจ๊วต ก็เข้าร่วมแสดงด้วยเช่นกันในบทบาทเดิมอย่าง Magneto และ Professor X แต่ในวัยที่เด็กกว่า เสริมทัพด้วย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, โอมาร์ ซี, ฟ่าน ปิงปิง, บูบู สจ๊วต และ นิโคลัส ฮอลท์ จาก X-Men: First Class

โคลิน ฟาร์เรล สาดความระห่ำสะสมแค้นใน Dead Man Down


โคลิน ฟาร์เรล สาดความระห่ำสะสมแค้นในหนังแอ็คชั่นสไตล์ "Dead Man Down แค้นได้ตายไม่เป็น" (M pictures)

          "Dead Man Down แค้นได้ตายไม่เป็น" ที่ โคลิน ฟาร์เรล จาก Total Recall แสดงนำในภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีสไตล์เฉพาะตัวจากผลงานการกำกับของ นีลส์ อาร์เดน ออพเลฟที่เคยประสบความสำเร็จจากคำวิจารณ์และโกยรายได้ทั่วโลกของภาพยนตร์สวีเดนจากหนังไตรภาคเวอร์ชั่นต้นฉบับเรื่อง The Girl with the Dragon Tattoo

          จุดเด่นของ Dead Man Down คือมีตัวเรื่องที่น่าสนใจ บวกกับตัวละครมีความลึกซึ้ง เป็นส่วนผสมที่วิเศษสุดของสิ่งที่น่าจะถูกใจผู้ชมในวงกว้าง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีแง่มุม อาร์ต ๆ ที่ดีด้วย ตัวละครของเรื่องมีทั้งอารมณ์และมิติลึกซึ้ง ซึ่งก็คือการไถ่บาปหัวใจ การไถ่บาปโชคชะตาของตัวเอง ในแง่ที่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ทุกสิ่งในชีวิตแลดูมืดหม่น สิ้นหวังที่สุด จะมีบางคนหรือบางสิ่งที่จะให้โอกาสที่สองเพื่อแก้ตัวและทำให้ชีวิตกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง นั่นเป็นเรื่องราวสำหรับ 2 ตัวละครอย่าง วิคเตอร์และเบียทริซ และที่มันเกิดขึ้นก็เพราะพวกเขาได้พบกันใน "ใจกลางแห่งความมืดมิด" ของทั้งคู่ การพบกันของทั้งคู่และสิ่งวุ่นวายทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาสามารถไถ่บาปตัวเอง มาถึงจุดที่พวกเขาได้รับโอกาสครั้งที่สอง

          เอ็ม พิคเจอร์ส เตรียมความมันส์ของภาพยนตร์แอ็คชั่นมีสไตล์เรื่อง "Dead Man Down แค้นได้ตายไม่เป็น" ที่นำโดย โคลิน ฟาร์เรล, นูมี่ ราเปซ, โดมินิค คูเปอร์ และ เทอเรนส์ โฮเวิร์ด  16 พฤษภาคมนี้ โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์เท่านั้น

Star Trek Into Darknes ตัวอย่างและโปสเตอร์ล่าสุด



จัดมาให้ดูกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับอีกหนึ่งหนังที่น่าดูที่สุดในปี 2013 นี้ ที่ล่าสุด Star Trek Into Darkness ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ออกมาให้ได้ชมกันแล้ว โดยเผยให้เห็นภาพการต่อสู้ครั้งใหม่ของกัปตันเคิร์ก และลูกเรือยานเอนเตอร์ไพรส์ กับศัตรูคนใหม่ ที่หวังทำลายล้างโลกให้สิ้นซาก กับความแค้นซ่อนลึก 

          จากผลงานการกำกับของ เจเจ อับรามห์ ซึ่งจะระเบิดความมันส์ในแบบของแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่แฟนหนังทั่วโลกจะได้ชมกัน นั่นคือเรื่อง Star Trek Into Darkness - สตาร์เทรค ทะยานสู่ห้วงมืด เมื่อลูกเรือของยานเอนเตอร์ไพรส์ได้ถูกส่งตัวกลับมาถึงดาวโลก พวกเขาได้เผชิญกับพลังที่น่าสะพรึงกลัวและยากจะหยุดยั้งที่เกิดขึ้นภายในองค์กรของพวกเขาเอง มันได้ทำลายกองยานรบและทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้โลกเข้าสู่สถานการณ์ที่อันตรายอย่างยิ่ง
          ด้วยความที่เป็นดาวบ้านเกิดของตัวเอง กัปตันเคิร์กจึงรับหน้าที่ในการนำทีมสู่พื้นที่สงครามเพื่อไล่ล่าคนร้ายที่ครอบครองอาวุธมหาประลัยในขณะที่สงครามการไล่ล่าที่มีเดิมพันเป็นชีวิตและความตายดำเนินไปนั้น ความรักก็ถูกท้าทาย มิตรภาพก็ถูกหั่นสะบั้น และการเสียสละของเหล่าผู้คนที่เปรียบเสมือนครอบครัวที่เหลืออยู่ของกัปตันเคิร์ก นั่นคือ ลูกเรือของเขา จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


เผยโฉมโปสเตอร์ Oldboy เวอร์ชั่นรีเมค


ปล่อยมาให้ดูกันแล้วสำหรับทีเซอร์โปสเตอร์แรกของ Oldboy ฉบับรีเมคภายใต้การกำกับของ สไปค์ ลี (Spike Lee) เจ้าของผลงาน Inside Man (2006) โดยต้นฉบับเดิมนั้น ปาร์ค ชุน วุค (Park Chan Wook) สร้างไว้เมื่อปี 2003 ซึ่งสำหรับใครที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องนี้เลยสักนิด หรือแม้แต่จะเคยได้ยินชื่อผ่านหูมาก่อนก็ไม่เคยเลยด้วยซ้ำ เราก็ขอเท้าความเนื้อเรื่องให้ฟังกันก่อน

          โดย Oldboy ว่าด้วยเรื่องราวของเจ้าหน้าที่การตลาดคนหนึ่งที่ถูกลักพาตัวไปและถูกขังเดี่ยวเป็นเวลานานกว่า 20 ปี โดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ ถึงเหตุผลของการถูกจับตัวในครั้งนี้ ก่อนที่เขาจะถูกปล่อยตัวออกมาเพื่อตามล่าหาคำตอบของเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งภารกิจแรกที่ชายหนุ่มตั้งเป้าหมายเอาไว้ ก็คือตามหาคนที่จับตัวเขาไปเพื่อแก้แค้นนั่นเอง โดยไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองได้เข้ามาติดกับในแผนการทรมานที่รออยู่เสียแล้ว

          ทั้งนี้ นอกจากเรื่องนี้จะได้ จอช โบรลิน (Josh Brolin) แสดงนำแล้ว หนังยังร่วมด้วยนักแสดงอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อลิซาเบธ โอลเซน (Elizabeth Olsen), เจมส์ แรนโซน (James Ransone), แซมมวล แอล แจ็คสัน (Samuel L. Jackson) และ ชาร์ลโต้ คอพลีย์ (Sharlto Copley) โดยมีกำหนดฉายในวันที่ 11 ตุลาคมนี้

          ถ้าใครอยากรู้ว่าพอปรับเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นรีเมคสไตล์ยุโรปแล้ว ภาพยนตร์เกาหลีที่ได้ ชเว มิน ชิก (Choi Min-sik) แสดงนำจะมีอรรถรสอย่างไร และยังคงเข้มข้นเร้าใจแบบที่แฟน ๆ ดั้งเดิมชื่นชอบกันหรือไม่ ก็รอติดตามกันให้ดีนะคะ 

ไรอัน เรย์โนลด์ จับคู่ เจฟ บริดเจส บู๊ระห่ำ ในตัวอย่างแรก R.I.P.D.


ปล่อยมาให้ได้ชมกันแล้วสำหรับตัวอย่างหนัง พร้อมโปสเตอร์แรก ของอีกหนึ่งหนังฟอร์มยักษ์ประจำปีอย่าง R.I.P.D ที่นำแสดงโดย ไรอัน เรย์โนลด์ และ เจฟ บริดเจส จากผลงานการกำกับของ โรเบิร์ต ชเวนท์เก (Robert Schwentke) ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของ Dark Horse Comic เรื่อง Rest In Pest Department ซึ่งเป็นชื่อของหน่วยตำรวจปราบวิญญาณนั่นเอง โดยหนังมีกลิ่นอายของ MIB อยู่บ้างเล็กน้อย ต่างกันเพียงแค่เรื่องนี้เป็นวิญญาณ


          ในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวของ Roy Pulsifer (เจฟ บริดเจส) มือปราบรุ่นเก๋าของหน่วย R.I.P.D. หรือ Rest In Peace Department องค์กรที่มีหน้าที่ดูแลปกป้องมนุษย์จากวิญญาณที่ไม่ยอมไปสู่สุคติ โดยเขาทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ระดับมือโปร เพื่อรักษาความยุติธรรม เมื่ออาชญากรตัวร้ายทั้งหลายกลายเป็นผี แต่หนีการพิพากษาโทษจากความชั่วของตัวเอง

          จนกระทั่งเขาต้องกลายมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจหนุ่มหน้าใหม่ Nick Walker (ไรอัน เรย์โนลด์) ที่ได้รับเลือกให้มาเป็นตำรวจปราบวิญญาณด้วยอีกคน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่า R.I.P.D. คืออะไรเสียด้วยซ้ำ ทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นคู่หูที่ทำงานร่วมกันได้โดยเร็ว ก่อนที่แผนชั่วจะทำให้ประตูวิญญาณเปิดออก แล้วส่งวิญญาณที่เต็มไปด้วยความแค้นทั้งหลายไปผิดฝั่ง


          โดยนอกจาก เจฟ บริดเจส (Jeff Bridges) และ ไรอัน เรย์โนลด์ (Ryan Reynolds) แล้ว R.I.P.D. ยังได้ เควิน เบคอน (Kevin Bacon) มาสวมบทตัวร้ายของเรื่อง รวมทั้งมีดาราอย่าง แมรี่-หลุยส์ ปาร์กเกอร์ (Mary-Louise Parker) และ ไมค์ โอ มอลลีย์ (Mike O'Malley) นำแสดงด้วยเช่นกันในขณะที่มีกำหนดเข้าฉายในสหรัฐอเมริกาวันที่ 19 กรกฎาคมปีนี้ค่ะ


ทอม ครูซ เตรียมรับบทนำหนังไซไฟ Yukikaze


 ดูท่าตอนนี้พระเอกหน้าหล่อ ทอม ครูซ (Tom Cruise) จะขึ้นแท่นพระเอกหนังแนวไซไฟเต็มตัวไปอีกคนเป็นที่เรียบร้อย เพราะหลังจากเคยดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากเหตุการณ์มนุษย์ต่างดาวบุกโลกมาแล้วกับบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง War of the Worlds รวมทั้งมีหนังเกี่ยวกับอวกาศที่เขารับบทนำอย่าง Oblivion ที่เพิ่งเข้าฉายในบ้านเราเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา แล้วไหนจะ Alll you need is kill หนังไซไฟอีกเรื่องที่คาดว่าจะฉายในปี 2014 อีก

          ล่าสุดก็มีข่าวออกมาอีกแล้วว่าดาราหนุ่มวัย 50 ปีคนนี้จะมาแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง Yukikaze หนังที่สร้างจากหนังสือชื่อ Rei Fukai ของประเทศญี่ปุ่นที่ตอนนี้ทำเป็นแอนิเมชั่นออกมาถึง 5 ตอนแล้วเช่นกัน ซึ่งหนังสือว่าด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อทางข้ามมิติปริศนาปรากฏขึ้นในทวีปแอนตาร์กติกา และมีกลุ่มนักรบเอเลี่ยนซึ่งเรียกตัวเองว่า JAM ออกมาจากช่องทางนั้น ทำให้มนุษย์รวมตัวกันเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกรุกราน ด้วยการขับไล่เอเลี่ยนให้กลับไปยังดาว Fairy ของมัน

          โดยเพื่อการรบครั้งนี้ มนุษย์ได้ตั้งกลุ่ม FAF ไว้เพื่อกำจัดเอเลี่ยนจากดาว Fairy โดยเฉพาะ และ เรอิ ฟุไค รองผู้บังคับบัญชาการก็เป็นตัวแทนของมนุษย์โลก เดินทางไปทำภารกิจที่ดาว Fairy เพื่อศึกษาหาจุดอ่อนของพวกมันมาให้มากที่สุด ซึ่งท่ามกลางภารกิจที่ยิ่งใหญ่และแสนจะโดดเดี่ยวนี้ คู่หูเพียงคนเดียวของเขาก็คือยานรบที่มีชื่อว่า Yukikaze นั่นเอง


          เรียกได้ว่าแม้จะยังไม่มีรายงานชื่อนักแสดงเป็นที่แน่นอน รวมทั้งวิดีโอหรือรูปตัวอย่างเพิ่มเติม และชื่อผู้กำกับออกมา แต่แค่พล็อตเรื่องก็น่าจับตามองมากพอที่จะดึงดูดความสนใจได้เสียแล้ว ดังนั้นหากมีข่าวใหม่ ๆ เพิ่มเติมเมื่อไหร่ รับรองว่ากระปุกดอทคอมจะรีบเอามาอัพเดทให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันทันทีแน่นอนจ้า

ภาพยนตร์ คอนเสิร์ต Bodyslam นั่งเล่น


ครั้งแรกในชีวิตของคุณและบอดี้สแลม กับประสบการณ์ภาพยนตร์ที่แตกต่าง ...ร้องตามได้...กรี๊ดตามได้ ...สนุกได้ราวกับดูคอนเสิร์ต เพราะนี่คือ ภาพยนตร์คอนเสิร์ต Bodyslam นั่งเล่น

          รวมภาพประทับใจจากคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ของบอดี้สแลมและแฟน ๆ เมื่อ 10 - 12 กุมภาพันธ์ 2555 (ณ Impact Exhibition Hall 1 เมืองทองธานี คอนเสิร์ตที่บอดี้สแลมนั่งเล่นให้แฟน ๆ ฟังอย่างอบอุ่น กันเอง และสนุกมาก ฉากสวยมาก) เมื่อเพลงบอดี้สแลมแปลงร่างเป็นเพลงอคูสติกที่โคตรมัน เมื่อพี่ ๆ เขาพูดเยอะที่สุดในชีวิตการเล่นคอนเสิร์ต และเล่นยาวให้แฟน ๆ สนุกที่สุดในชีวิตการดูคอนเสิร์ตครั้งหนึ่ง สู่ภาพยนตร์คอนเสิร์ตที่ผู้คนรอคอยมากที่สุด หลังจากถ่ายทำและตัดต่ออย่างพิถีพิถันของทีมนักทำหนัง เฝ้าดูและคอมเมนต์จากนักดนตรีและทีมงานคอนเสิร์ตมาแรมปี

          ในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะได้นั่งชมบอดี้สแลมนั่งเล่นในโรงภาพยนตร์ ที่สำคัญ… กรุณาอย่างดใช้เสียงขณะชม


ตัวอย่างหนัง Scary Movie 5


เรื่องย่อ Scary Movie 5 ยำหนังจี้ เรียลลิตี้หลุดโลก

          เรื่องราวลึกลับสุดวายป่วงเกิดขึ้นในบ้านหลังหนึ่ง เมื่อคู่สามีภรรยา "แดน" สัตวแพทย์หนุ่ม และ "โจดี้" สาวนักบัลเลต์ เพิ่งย้ายเข้ามาอาศัยในบ้านหลังนี้ได้ไม่นาน แต่ทั้งสองกลับเริ่มสังเกตเห็นถึงเรื่องราวแปลกประหลาดบางอย่างเกิดขึ้นรอบตัวของพวกเขา จนกระทั่ง "ไอเดน" ลูกหัวแก้วหัวแหวนของพวกเขากลับมาจากโรงพยาบาล เรื่องราวทั้งหมดกลับทวีความสยองปนยุ่งเหยิงแบบกู่ไม่กลับ สุดท้ายพวกเขาก็สำนึกได้เสียทีว่าครอบครัวอันแสนอบอุ่น (เหรอ) กำลังถูกปีศาจร้ายและความชั่วอันดำมืดย่างกรายเข้ามาหลอกหลอน แต่ด้วยคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์มากมาย จะทำให้เรื่องราวทั้งหมดเพี้ยนไปจากเดิมอีกหรือไม่ แล้วใครจะรับผิดชอบเรื่องราวบ้าบอคอแตกที่เกิดขึ้นกับพวกเขากันล่ะ
 

          ติดตามเรื่องราวสุดป่วนชวนฮาหลุดโลกใน Scary Movie 5 ยำหนังจี้ เรียลลิตี้หลุดโลก 18 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์



ตัวอย่างหนัง เกรียนฟิคชั่น Grean Fictions

เรื่องย่อ เกรียนฟิคชั่น Grean Fictions

          "ตี๋" เด็กหนุ่มม.ปลาย อยู่ชมรมภาพยนตร์ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังในเชียงใหม่ ผู้เป็นหัวคิดของรายการ เกรียน ฟิคชั่น (Grean Fictions) ทางยูทูบ แถมเป็นรายการสุดฮิต และฮอตมาก เพราะเรื่องราวที่นำมาทำเป็นหนัง มีทั้งแฮปปี้เอนดิ้ง ฮาแตกแบบสุด ๆ โดยผ่านการคิด และการแสดงจากเหล่าแก๊งเพื่อนจอมเกรียน อย่าง โอ๊ต หนุ่มหล่อที่มักจะยึดบทถ่ายและกำกับ, โมน หนุ่มจอมทะลึ่งผู้กล้าทำทุกอย่าง, แอ๊น เพื่อนกระเทย ที่มักจะถูกรับเชิญมาเล่นด้วยบ่อย ๆ และการเกรียนฟิคในครั้งนี้ เหมือนได้เล่นสนุกกับชีวิตของคนอื่นมากมาย ที่ส่งผลทั้งดีและร้ายกับชีวิตหลายคน แต่ที่แน่ ๆ กลุ่มคนดูของพวกเขาล้วนมีความสุขไปกับมัน

          เมื่อหนังที่สร้างเราสามารถควบคุมมันได้ แต่กับชีวิตจริงนั้นตี๋ไม่สามารถควบคุม หรือ ทำให้มันตลกได้เหมือนหนัง เมื่อ ทิพย์ พี่สาวคนสวยของตี๋มีแต่หนุ่ม ๆ เข้ามารุมล้อม รวมถึง เขตต์ หนุ่มหล่อไฮโซ เพลย์บอย ที่หลงรักทิพย์แต่ไม่กล้าผูกมัด ทำให้ตี๋ไม่พอใจอย่างมาก หรือแม้กระทั่งความรักของตัวเอง พลอยดาว สาวเก่งประจำชมรมละคร ที่ตี๋แอบชอบแต่ก็ต้องเฮิร์ท ช่วงเวลาของวัยรุ่นมัธยมปลาย ที่พร้อมจะถูกเปิดเผย และสะท้อนเรื่องราวของวัยรุ่นอย่างถึงแก่น



วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

จีนร่วมสร้าง Transformer 4


Tranformer 4

Tranformer 4

Tranformer 4

          มีข่าวความเคลื่อนไวมาฝากกันอีกแล้ว สำหรับความคืบหน้าในการสร้างภาพยนตร์แฟรนไชส์สุดฮิต ของผู้กำกับไมเคิล เบย์ Transformer 4 ที่ล่าสุด Paramount Pictures ออกมาประกาศว่า ได้ทำข้อตกลงร่วมอำนวยการสร้างกับบริษัท ไชน่ามูฟวีแชนเนล ของรัฐบาลจีน และบริษัท เจียฟลิกซ์เอ็นเตอร์ไพรเซส โดยบริษัทจากจีนจะช่วยด้านการถ่ายทำในจีนและการโปรโมท หรืออาจรวมถึงขั้นตอนโพสต์โปรดักชั่นด้วย โดยหนัง Transformer 4 นั้นวางกำหนดฉายวันที่ 27 มิถุนายน ปี 2014 ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า Transformer 4 นั่นจะมีการถ่ายทำบางส่วนที่ประเทศจีน และมีนักแสดงจากจีนเข้าร่วมในภาคนี้ด้วย

          ในส่วนของนักแสดงนำนั้นผู้กำกับไมเคิล เบย์ ได้วางตัว มาร์ค วอล์หเบิร์ก, แจ็ค เรย์นอร์ และดาราสาวหน้าหวาน นิโคลา เพลท์ซ ไว้เป็นนักแสดงหลักในภาคนี้ โดย Transformers 3: Dark of the Moon นั้นทำเงินทั่วโลกถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2011 โดยกวาดรายได้ในจีนไปถึง 165 ล้านดอลลาร์

ภาพแรก เอวา กรีน จากหนังภาคต่อ Sin City: A Dame to Kill For


Sin City


          ด้วยบุคลิกทรงเสน่ห์แฝงความลึกลับน่าค้นหา ทำให้สาวสวยอย่าง เอวา กรีน สะกดคนดูให้ตกหลุมรักได้ไม่ยาก จนเธอกลายมาเป็นหนึ่งในดาราเซ็กซี่แถวหน้าของวงการฮอลลีวูด และเมื่อเธอได้มารับบท เอวา ลอร์ด หรือ เดม ตัวละครซึ่งผู้กำกับ โรเบิร์ด รอดริเกซ (Robert Rodriguez) กล่าวว่าเป็นสาวสวยรวยเสน่ห์ที่มาพร้อมกลิ่นอายความลึกลับ มันก็ช่างเข้ากับบุคลิกของเธอเสียจริง ๆ ทำให้รูปบนโปสเตอร์โปรโมทที่ถ่ายออกมานั้นดูสวยไร้ที่ติ

          ทั้งนี้เรื่องของ Sin City: A Dame to Kill For เริ่มขึ้นในคืนที่มืดสนิท ไม่ต่างจากคืนที่ผ่านมาในเมืองเบซิน แต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นเมื่อมันเป็นคืนที่คู่รักอย่าง ไดวท์ และ เอวา ลอร์ด ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง และเอวาก็ได้มีแผนสำหรับสิ่งที่เธอต้องการให้ไดวท์ทำอยู่ในหัวของเธอแล้วด้วย ในขณะที่ไดวท์พร้อมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อแก้ไขอดีต และกลับมารู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

          อนึ่งดารานำแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้แก่ เจสสิกา อัลบา (Jessica Alba), มิคกี้ รู้ค (Mickey Rourke), โรซาริโอ ดอว์สัน (Rosario Dawson), เดนนิส เฮย์สเบิร์ท (Dennis Haysbert), เจมี่ ชุง (Jamie Chung) และ เอวา กรีน (Eva Green) โดยมีกำหนดเข้าฉายภายในวันที่ 4 ตุลาคมนี้

          ซึ่งจากฟอร์มดาราที่ขนคนดังมาเสียคับคั่ง และกระแสตอบรับที่ดีจากภาคก่อนแล้ว รวมไปถึงเนื้อเรื่องเข้มข้นจากงานเขียนบทของ แฟรงค์ มิลเลอร์ (Frank Miller) เช่นเดียวกับภาคที่แล้ว ดูท่าเรื่อง Sin City: A Dame to Kill For คงประสบความสำเร็จได้ไม่ยากแน่นอน ดังนั้นมันจึงเป็นอีกเรื่องที่น่าติดตาม ชนิดที่คอหนังตัวจริงอย่างคุณไม่ควรพลาดเด็ดขาดนะคะ

Finding Dory ภาคต่อของ Finding Nemo เตรียมฉายปี 2015






          เมื่อมีข่าวออกมาว่าเจ้าของรางวัลออสการ์ แอนดรูว์ แสตนตัน (Andrew Stanton) จะกลับมากำกับภาคต่อของ Finding Nemo อีก แฟน ๆ หลายคนก็คงใจจดใจจ่อรอฟังข่าวใหม่ ๆ กันน่าดู แต่ก็คงอดสงสัยไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ว่าภาคใหม่นี้เนื้อเรื่องจะเป็นอย่างไร และจะยังคงใช้ชื่อเดิมอยู่หรือเปล่า? เพราะคนเขียนบทคงไม่ใจร้ายขนาดให้นีโมต้องพลัดพรากกับพ่ออีกรอบจนต้องมาตามหากันใน Finding Nemo 2 อีกหรอก

          ทำให้ชื่อเรื่องในภาคนี้กลายเป็น Finding Dory เจ้าปลาสีฟ้าความจำสั้น ขวัญใจของเด็ก ๆ แทน เราจึงมั่นใจได้ว่าโดรีคงมีบทบาทมากขึ้นอีกในภาคนี้แน่นอน โดยแอนดรูว์เผยว่าในภาคนี้ โดรีจะกลับมาพร้อมกับคนสำคัญในชีวิตของเธอ และได้เรียนรู้ความหมายของคำว่า "ครอบครัว" ในระหว่างการเดินทางครั้งสำคัญที่ชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียด้วย

          ซึ่งเขามองว่า เอลเลน ดีเจนเนอเรส (Ellen DeGeneres) ต้องกลับมาพากย์เสียงอยู่แล้ว เพราะโดรีคงไม่มีวันมีคาแรคเตอร์สดใสเหมือนเดิมอีก หากปราศจากเธอ ในขณะที่ตัวเอลเลนเองให้ความเห็นว่าเธอรอให้วันนี้มานานเหลือเกิน เพราะเข้าใจดีว่าทีมงาน Pixar คงมัวแต่ยุ่งกับการสร้าง Toy Story 16 จนไม่มีเวลา แต่ในที่สุด ก็ถึงเวลาของ Finding Dory เสียที และหลังจากอ่านสคริปต์เรียบร้อยแล้ว เธอก็ยิ่งปลาบปลื้มมากขึ้นอีก เพราะเนื้อเรื่องยังคงความอบอุ่นหัวใจเช่นเดียวกับภาคแรก ในขณะที่โดรีเด่นขึ้นด้วย 

          ทั้งนี้คาดว่า Finding Dory จะเข้าฉายพร้อมระบบ 3 มิติภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนปี 2015 ซึ่งแม้จะเป็นเวลาที่ต้องอดใจรอกันนานสักหน่อย แต่เชื่อว่าเวลาที่ใช้ในการสร้างอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด จะต้องคุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอนจ้า



finding nemo

Big eyes ได้ยอดผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน ดูแล


ทิม เบอร์ตัน

big eyes

          แน่นอนว่าถ้าพูดถึงผู้กำกับแถวหน้าของวงการฮอลลีวูด คงขาดชื่อของผู้กำกับระดับตำนานอย่าง ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ที่ไม่ว่าจะหยิบจับเรื่องอะไรมาทำก็ประสบความสำเร็จไปซะหมด ทั้ง Corpse Bride, Charlie and the Chocolate Factory, Alice in Wonderland และเรื่องล่าสุดที่ได้รับเกียรติเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์กับเขาด้วยอย่าง Frankenweenie ไปไม่ได้เด็ดขาด

          ดังนั้นเมื่อมีการคอนเฟิร์มข่าวออกมาว่า เขาจะมากำกับเรื่อง Big eyes มันจึงเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่น่าจับตามอง จนกระปุกดอทคอมต้องรีบเอาความคืบหน้ามาอัพเดตให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ วอลเตอร์ และ มาร์กาเร็ต คีแอน จิตกรที่เคยรักกันมาก่อน จนกลายมาเป็นหัวข้อสนทนาที่ฉาวโฉ่ไปทั่ว เมื่อการหย่าร้างของพวกเขาจบลงด้วยหายนะในปี 1965

          จากการที่ทั้งสองอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพเขียนเด็กที่มีดวงตากลมโตเมื่อราวช่วงปี 50 - 60 ซึ่งการโต้เถียงยืดเยื้อยาวนาน จนกระทั่งศาลตัดสินให้ทั้งคู่พิสูจน์ฝีมือด้วยการวาดรูปประชันกันเสียเลย ว่าใครจะมีผลงานใกล้เคียงกับภาพของจริงมากที่สุด คดีที่ผลาญทั้งเงินและเวลาจึงได้สิ้นสุดลงด้วยชัยชนะของมาร์กาเร็ต แม้วอลเตอร์จะยังคงยืนยันว่ารูปนั้นเป็นผลงานของเขาเหมือนเดิมก็ตามที

          เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ดราม่าที่แค่ฟังเรื่องย่อก็เข้มข้นน่าติดตามเสียแล้ว แถมการันตีด้วยฝีมือของผู้กำกับคนดัง ทิม เบอร์ตัน คงไม่มีผิดหวังแน่นอน ส่วนเรื่องนักแสดงนั้น แม้ยังไม่มีการยืนยันออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีรายงานแล้วว่า คริสโตเฟอร์ วอลท์ซ (Christoph Waltz) และ เอมี อดัมส์ (Amy Adams) กำลังอยู่ในระหว่างทาบทามเจรจามารับบทนำอยู่ ซึ่งหากเป็นจริงล่ะก็ เรื่องนี้คงยิ่งน่าติดตามมากขึ้นอีกแน่นอน ว่าไหมคะ?

หนัง Only God Forgives ใช้เพลงไทยประกอบทีเซอร์

นอกจากจะมีนักแสดงสาวไทยอย่าง หญิง รฐา โพธิ์งาม มาร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว Only God Forgives ของพระเอกหนุ่ม ไรอัน กอสลิ่ง ยังได้นำเพลงจากศิลปินวงพราว ที่มีชื่อว่า เธอคือความฝัน มาใช้ประกอบทีเซอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย



          โดยเรื่องราวใน Only God Forgives บอกเล่าชีวิตของ จูเลี่ยน (รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง) ชายหนุ่มผู้หนีมาอาศัยกบดานอยู่ในประเทศไทยนานถึง 10 ปีแล้ว หลังจากไปฆ่าตำรวจคนหนึ่งเข้า โดยเขาเปิดค่ายมวยไทยขึ้นมาเพื่อเป็นฉากบังหน้าธุรกิจค้ายาเสพติดที่ตัวเองดูแลอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตเขาต้องพลิกผันไป เมื่อน้องชายของเขาดันไปฆ่าโสเภณีรายหนึ่งจนเสียชีวิต และโดนคนตามมาเก็บในที่สุด

          เมื่อแม่ของทั้งสองทราบเรื่องราวการตายที่เกิดขึ้น จึงได้เดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อรับศพลูกชายของเธอ และได้สั่งให้ จูเลี่ยน จัดการแก้แค้นคนที่พรากชีวิตน้องชายเขาให้ได้


          ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากจะได้หนุ่มฮอต ไรอัน กอสลิ่ง (Ryan Gosling) และ สาวสวยเซ็กซี่ หญิง รฐา โพธิ์งาม ร่วมแสดงแล้ว ยังมีดาราชื่อดังอีกมากมาย อาทิ คริสติน สก็อต โทมัส (Kristin Scott Thomas) และ ทอม เบิร์ก (Tom Burke) รวมไปถึงดาราไทยคนอื่น ๆ ซึ่งได้แก่ สหจักร บุญธนกิจ และ วิทยา ปานศรีงาม ด้วยเช่นกัน

          เรียกได้ว่าเป็นอีกเรื่องที่คอหนังแอ็คชั่นไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลยทีเดียว ว่าแล้วก็ลองไปชมตัวอย่างกันเลยดีกว่า

ทีเซอร์แรก iSteve หนังประวัติ สตีฟ จ็อบส์






ทีเซอร์แรก iSteve

          หลายคนที่กำลังเฝ้ารอหนัง jObs ที่นำแสดงโดย แอชตัน คุชเชอร์ กันอยู่ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่านี่เป็นเรื่องเดียวกัน เพราะ iSteve แม้เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับชีวประวัติของ สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) แต่หนังเรื่องนี้จัดทำโดยเว็บไซต์ตลกแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่าFunny or Die

          Funny or Die เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมคลิปตลกต่าง ๆ ไว้ โดยล่าสุดทางเว็บได้ปล่อยทีเซอร์ตัวอย่างแรกของหนัง iSteve มาให้เหล่าสาวก Apple ได้ดูกันนอกจากนี้ ทีมงานเว็บไซต์ Funny or Die ยังเผยว่า จะมีการปล่อยคลิปดังกล่าวให้ดูผ่านทางเว็บไซต์ในวันที่ 15 เมษายน โดยหนังเรื่องนี้เป็นผลงานการกำกับของ Ryan Perez นำแสดงโดย จัสติน ลอง ซึ่งตัวหนังจะมีความยาวราว ๆ 60-75 นาที เลยทีเดียว และถือเป็นโปรเจคท์หนังที่ยาวที่สุดตั้งแต่เว็บไซต์นี้เคยทำมา

          ทางผู้กำกับ Ryan Perez ได้เผยว่า ที่จริงแล้วเขาค้นข้อมูลจากในอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ซึ่งการค้นข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตก็คงไม่ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากนัก เพราะใช้แค่ข้อมูลจาก Wikipedia เพียงอย่างเดียว แม้มันจะเป็นเรื่องที่ดูไม่ฉลาดเท่าใดนัก แต่มันก็มากพอจะครอบคลุมเรื่องราวชีวิตของ สตีฟ จอบส์ ได้ทั้งหมด




          สำหรับ iSteve เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการก่อตั้ง Apple ในช่วงยุคปลาย ส่วนเหตุผลหลักที่ จัสติน ลอง ได้เล่นหนังเรื่องนี้ คงเพราะเขาเคยมีผลโฆษณาซีรีส์ที่ชื่อ "Mac vs PC" ซึ่งเขารับบทเป็น Mac นั่นเอง

Teaser หนังใหม่ The Host หนังรักสามเส้าจากผู้เขียน Twilight


กำหนดฉาย : 4 เมษายน 2556
แนว : แอ็คชั่น / ไซไฟ
นำแสดง : เซอเชอร์ โรแนน, แมกซ์ ไอรอนส์, เจค เอเบิ้ล, ไดแอน ครูเกอร์
กำกับ : แอนดรูว์ นิโคล
อำนวยการสร้าง : สเตฟานี่ย์ เมเยอร์ (ผู้แต่ง The Twilight Saga ทุกภาค)
 
เรื่องย่อ The Host
 
          ผลงานวรรณกรรมของผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ แวมไพร์ ทไวไลท์ สู่มหากาพย์ภาพยนตร์แอ็คชั่น / ไซไฟ เรื่องยิ่งใหญ่ นำแสดงโดย เซอเชอร์ โรแนน จาก Atonement และ Hanna
 
          The Host เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกอนาคต หลังจากปรสิตจากต่างดาวที่เรียกตัวเองว่า "โซล" บุกโลกยึดร่างและควบคุมความคิดของมนุษย์ทุกคน แต่ก็มีเพียง เมลานี สไตรย์เดอร์ (รับบทโดย เซอเชอร์ โรแนน) หญิงสาววัย 20 ที่ถึงแม้จะถูกโซลที่ชื่อ แวนด้า (รับบทโดย เซอเชอร์ โรแนน เช่นกัน) เข้ายึดครองร่าง อย่างไรก็ตามจิตใจของเธอก็ไม่ยอมถูกควบคุม ซึ่งทำให้ แวนด้า ได้เห็นความทรงจำของ ด้วยจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้และเลือนหายไปของ เมลานี ก่อนที่จะได้พบกับคนรักอีกครั้ง เธอก็อาจเป็นกุญแจดอกสำคัญ ที่จะปลดปล่อยมนุษย์ทั้งโลกจากโซล
 
          หนังนำแสดงโดย เซอเชอร์ โรแนน ตัวเอกของเรื่อง ที่ต้องรับบทเป็นตัวละครสองตัวในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีดาราชื่อดังร่วมแสดงอยู่ด้วยอีกหลายคน อาทิ เช่น ไดแอน ครูเกอร์, วิลเลียม เฮิร์ต, แมกซ์ ไอรอนส์, เจค อาเบล และ แชนด์เลอร์ แคนเตอร์บิวรีย์ โดยหนังโรแมนติก - ไซไฟ เรื่องนี้ เป็นฝีมือการกำกับและเขียนบทของ แอนดรูว์ นิคโคล ผู้เคยฝากผลงานไว้กับหนังอย่าง In Time และ Gattaga
 
  
เกร็ดภาพยนตร์ The Host


          • The Host เป็นผลงานวรรณกรรมของ สเตฟานี่ย์ เมเยอร์ ซึ่งเป็นผู้แต่ง Twilight, New Moon, Eclipse และ Breaking Dawn โดยหนังสือเล่มนี้ก็เดินตามรอยปรากฏการณ์แฟรนไชส์ทไวไลท์ ตั้งแต่ออกวางจำหน่ายในปี 2008 ก็สามารถขึ้นชาร์ทหนังสือขายดีของ นิวยอร์ค ไทมส์ และอยู่ในอันดับหนึ่งนานติดต่อกันถึง 26 สัปดาห์ และอยู่ใน 10 อันดับแรกของชาร์ทหนังสือขายดีของ ลอสแองเจลิส ไทมส์ ถึง 36 สัปดาห์ The Host ยังได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในหนังสือยอดเยี่ยมแห่งปีของเว็บไซด์ Amazon โดยปัจจุบัน เมเยอร์ ก็ให้สัมภาษณ์ว่าเธอกำลังวางแผนที่จะเขียนให้เป็นไตรภาค โดยเล่มที่สองจะใช้ชื่อ The Soul และเล่มสุดท้ายชื่อ The Seeker
 
          • The Host เป็นผลงานการกำกับและดัดแปลงให้เป็นบทภาพยนตร์โดย แอนดรูว์ นิโคล ที่เคยเข้าชิงออสการ์จากการเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง The Truman Show รวมถึงสร้างชื่อจากการกำกับหนังไซไฟคลาสสิกอย่าง Gattaca ที่ได้รับรางวัล Hugo Awards (ออสการ์แห่งโลกวรรณกรรม) ในสาขาภาพยนตร์ไซไฟยอดเยี่ยม รวมถึงมีผลงานแอ็คชั่น-ไซไฟไอเดียล้ำอย่าง In Time นำแสดงโดย จัสติน ทิมเบอร์เลค และ อาแมนด้า ไซฟรีด
 
          • นอกจากที่การได้ เซียร์ช่า โรแนน เข้ามารับบทเป็นตัวละครนำของเรื่อง หนังก็ยังมีทีมนักแสดงคุณภาพที่เข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์เรื่องราวของความรักในโลกอนาคต ไม่ว่าจะเป็น ไดแอน ครูเกอร์ ที่รับบทเป็น เดอะ ซีคเกอร์ โซลที่ได้รับมอบหมายให้ตามหา เมลานี/แวนด้า, แม๊กซ์ ไอร่อน (พระเอกจาก Red Riding Hood) รับบทเป็น จาเร็ด คนรักของ เมลานี ที่เป็นแรงใจที่ทำให้เธอไม่ยอมแพ้ต่อโซล, เจค เอเบิ้ล (จาก Percy Jackson) รับบทเป็น เอียน โอเช ผู้ร่วมเดินทางไปพร้อมกับ เมลานี/แวนด้า ที่หลงรัก แวนด้า และไม่อยากให้เธอต้องเสียสละตัวเองเพื่อ เมลานี และ วิลเลี่ยม เฮิร์ต รับบทเป็น เจฟ ลุงของ เมลานี ที่สงสัยถึงการรุกรานของโซลเป็นคนแรก และสร้างบังเกอร์กลางทะเลทรายเพื่อใช้หลบซ่อน








The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host

The Host
The Host

The Host

The Host
The Host

The Host

The Host

The Host

The Host